Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ สวนสุนันทา หนุนไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียน (Hub of CLMV) ตั้งศูนย์การเรียนรู้ Double A Logistics Academy

"หนึ่งในแกนหลักของการแข่งขัน และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ คือ ระบบโลจิสติกส์ ประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้น อาจไม่ใช่ประเทศที่มีความมั่งคั่ง ร่ำรวยทรัพยากรแต่อย่างใด แต่เป็นประเทศที่มีความเป็นผู้นำด้านระบบโลจิสติกส์”

คำบรรยายพิเศษ ของ นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ ในโอกาสเปิดศูนย์เรียนรู้ Double A Logistics Academy

 

นับเป็นปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งแรกของภาคเอกชนกับสถาบันการศึกษา ระหว่าง ดั๊บเบิ้ล เอ โดยนายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กรรมการผู้จัดใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)  และ วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนของประเทศไทย พร้อมๆ กับการเร่งสร้างทรัพยากรบุคลากรด้านโลจิสติกส์ให้เติบโต  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการค้า และนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแห่งอาเซียน (Hub of CLMV) โดยมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ดังเช่นเมืองหลักสำคัญของโลก อาทิ นครร็อตเตอร์ดัม แห่งเนเธอร์แลนด์ นครนิวเจอร์ซี่  แห่งสหรัฐอเมริกา และนครเซี่ยงไฮ้ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่พัฒนาระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

จึงเป็นที่มาของโครงการความร่วมมือด้านวิชาการในระบบโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน  และการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ Double A Logistics Academy ขึ้น ณ วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม  โดยศูนย์เรียนรู้นี้ จะประกอบไปด้วย ห้องปฎิบัติการคอมพิวเตอร์ ที่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พร้อมระบบเชื่อมต่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ระบบซอฟต์แวร์การจัดการ  โลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั้งระบบ และห้องปฏิบัติการโลจิสติกส์ ที่จำลองการจัดการคลังสินค้าตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง  รวมถึงห้องปฎิบัติการขายจริง (Point of Sales – POS) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้แบบบูรณาการ และกระตุ้นให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้จากปฏิบัติการจริง รวมถึงเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติด้านโลจิสติกส์

ปัจจุบันภาครัฐกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวนับเป็นการผลักดันการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่ผสานโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ด้านเทคโนโลยีทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารยุคดิจิตอลอย่างเป็นรูปธรรม ยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยมีภูมิประเทศตั้งอยู่ตรงกลาง และรอบล้อมไปด้วยประเทศสมาชิกต่างๆ ในสมาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ทำให้ไทยได้เปรียบจากการมีลักษณะพื้นที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมเป็น land link อีกทั้งยังมีขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศรอบด้านมากกว่าประเทศในกลุ่ม CLMV จึงเอื้อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์  รวมถึงการเปิด AEC ส่งผลให้เกิดการจัดตั้งกลุ่มประเทศระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง(Greater Mekong Subregion Corridors ) ของ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมยึดโยงเข้าหากัน เป็นอีกหนึ่งเส้นทาง land link ยุทธศาสตร์สำคัญของการจัดการและบริหารระบบโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดี

นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ กล่าวเสริมว่า การปฏิรูปโลจิสติกส์ยังสร้างโอกาสมหาศาลให้กับคนรุ่นใหม่เป็นรายบุคคล ที่จะพัฒนาธุรกิจใหม่ในฐานะ Start up ด้วยการนำนวัตกรรมมาพัฒนาระบบไอที ระบบแอพพลิเคชั่น   เพื่อสนับสนุนรองรับระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ซึ่งโอกาสได้เปิดกว้างขึ้นในการสร้างความมั่งคั่งของคนรุ่นใหม่ ตัวอย่างเช่น Uber Taxi แอพพลิเคชั่นที่เป็นบิสซิเนส โมเดลด้านโลจิสติกส์ ประเภทหนึ่งของ Start   up โดยจัดเป็นประเภท  Sharing Endures Resource ซึ่งเป็นการสนองความต้องการแก่ผู้บริโภคโดยนำนวัตกรรมเข้ามาเป็นเครื่องมือ เช่นเดียวกับ Uber ที่สนองความต้องการ (needs) ของผู้ใช้แท็กซี่ที่มีนวัตกรรมเข้ามาช่วย  ปัจจุบัน Uber ให้บริการใน 68 ประเทศ มากกว่า 400 เมือง มีคนขับในระบบ 1.2 ล้านคน และมีผู้ใช้บริการหลัก 10 ล้านคน โดยในประเทศไทยมีคนขับในเครือข่ายมากกว่า 35,000 คน

เช่นเดียวกันกับ Alibaba.com เว็บไซต์ขายส่งสัญชาติจีนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งเป็นศูนย์รวมโรงงานในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นทางออกในการรองรับการค้าขายที่เหมาะสมที่สุด ช่องทางหนึ่ง และเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่งสินค้าเหล่านั้นกระจายสู่ทั่วโลกในรูปแบบ  Business to Business หรือ B2B ดังนั้นยังมีอีกหลายบิซิเนส โมเดล ที่รอให้นักศึกษา หรือคนรุ่นใหม่เข้ามาค้นหาโอกาสและช่องทางในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ และพัฒนาระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนให้เกิดขึ้นในวงการธุรกิจไทย "

รศ.ดร. ฤาเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กล่าวว่า   “มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีนโนยบายมุ่งพัฒนาคน อันเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ควรส่งเสริมองค์ความรู้ให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จึงได้เกิดเป็นความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษากับภาคธุรกิจเพื่อร่วมกันพัฒนาการเรียนการสอนที่มุ่งมั่นในการผลิตนักศึกษาให้สามารถรองรับกับความต้องการของภาคธุรกิจที่ต้อง เผชิญความท้าทายรอบด้าน และกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างเหมาะสม  ดังนั้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทางมหาวิทยาลัยเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และห้องปฏิบัติการขายที่มหาวิทยาลัย ได้รับมอบจากดั๊บเบิ้ล เอ จะเป็นเครื่องมือที่ติดอาวุธให้กับนักศึกษา สาขาโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ในการยกระดับการเรียนการสอนพัฒนาหลักสูตรจากการศึกษาผ่านประสบการณ์จริงจากบุคลากรและกระบวนการดำเนินงานจริงของดั๊บเบิ้ล เอ และผ่านการจำลองร้านค้า เครื่องเขียน และร้านถ่ายเอกสารของดั๊บเบิ้ล เอ ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้ การบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง และเมื่อนักศึกษารุ่นนี้จบออกไปพวกเขาเหล่านี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบโลจิสติกส์ยุคใหม่ให้ก้าวหน้าทันสมัยรองรับความท้าทายที่ต้องเผชิญต่อความเปลี่ยนแปลงรอบด้านในปัจจุบัน"

กิตติพงศ์ ธารปราบ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการจัดการโลจิสติกส์ อายุ 20 ปี กล่าวว่า การจัดตั้ง Double A Logistics Academy เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ มีคุณค่า ที่ทำให้พวกเขาเห็นภาพการเรียนรู้ระบบการบริหารจัดการโลจิสติกส์จากประสบการณ์จริงอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นักศึกษาอีกหลายคนมีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าพวกเขาและเธอมีแรงบันดาลใจในการก้าวเข้ามาเรียนสาขาวิชานี้จากการที่เป็นคนชอบการเดินทาง รักการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง และมีความเห็นว่า การเรียนสาขาวิชานี้จะทำให้บริหารจัดการสินค้าและผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบ สร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมีศักยภาพมาตรฐานในระดับสากล การจัดการโลจิสติกส์ที่ดีสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับบริการลูกค้า และมูลค่าทางการค้า แต่ปัจจุบันกิจกรรมโลจิสติกส์ยังมีต้นทุนสูง ธุรกิจในประเทศไทยโดยรวมมีการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมโลจิสติกส์ คิดเป็น 14.2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือประมาณ 1,835 พันล้านบาท การบริหารจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นกุญแจสำคัญของการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ และการพัฒนาเศรษฐกิจไทย จากผลการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) ประเทศไทยมีสมรรถนะการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ (Logistics Performance Index (LPI) ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ โดยเมื่อปี 2557 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 35 สิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 5 และมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 25 จากทั้งหมด 160 ประเทศ ในขณะที่การเปิดการค้าเสรีอาเซียนที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ AEC จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจในระดับเวทีสากล จึงจำเป็นที่ประเทศไทยทุกภาคส่วน ต้องร่วมกันปรับตัว และทำให้ข้อได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ที่ไทยมีที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ มาทำให้เกิดประโยชน์ในการผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนแห่งอาเซียนสืบไป

 

ภาพประกอบสกู๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับ กสศ. ส่งมอบอุปกรณ์เครื่องเขียน ส่งเสริมฟื้นฟูจิตใจน้อง ๆ ในศูนย์อพยพพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และเครือข่ายเพื่อน กสศ. เดินหน้าเติมพลังใจและสนับสนุนการเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชนในศูนย์อพยพ 4 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และบุรีรัมย์ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยการส่งมอบอุปกรณ์และสื่อการเรียนรู้ที่จำเป็น อาทิ กระดาษ สมุด และชุดเครื่องเขียน ซึ่งการส่งมอบในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการเติมเต็มสิ่งของที่จำเป็นด้านการศึกษา แต่ยังเป็นการส่งความห่วงใย และกำลังใจให้น้อง ๆ ในการทบทวนบทเรียน ทำแบบฝึกหัด ฝึกฝนความรู้และพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ไม่ปกติ ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจในการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา และฟื้นฟูจิตใจให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมกันนี้ ขอเป็นกำลังใจให้สถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายและกลับเข้าสู่ความสงบโดยเร็ว เพื่อให้น้อง ๆ และครอบครัวสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้ง

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งความห่วงใย มอบหน้ากากอนามัยฯ สู่ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา

ดั๊บเบิ้ล เอ ห่วงใยสุขอนามัยของทหารชายแดนไทย-กัมพูชา มอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ Double A Care รุ่น 3D V-SHAPE Smart FIT สีดำ จำนวน 20,000 ชิ้น ให้แก่ มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ โดยหน้ากากอนามัยฯ นี้สามารถกรองเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ 99.9% ใส่สบาย หายใจสะดวก เพื่อสุขอนามัยที่ดี พร้อมส่งกำลังใจให้ทหาร และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชนคนไทยทุกคน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้มอบผลิตภัณฑ์ Double A Care ที่มีความต้องการ อาทิ เพียว & พรีเมียม ทิชชู, ทิชชูเปียก Pure Water และ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ให้แก่ศูนย์อพยพต่างๆ รวมถึงมอบอุปกรณ์เครื่องเขียน ให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อเด็กที่ได้รับผลกระทบ ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นพลังบวกให้คนไทยก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งต่อพลังบวก “Double A Fit for Kids ครั้งที่ 3” มอบอุปกรณ์การเรียน 3,000 ชุด ให้เด็กๆที่ขาดแคลน

    นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นผู้แทนมอบชุดอุปกรณ์การเรียน จำนวน 3,000 ชุด ภายใต้โครงการ “Double A Fit for Kids ครั้งที่ 3” ผ่านมูลนิธิซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนฯ โดยมี ดร.สุรีวัลย์ ลิ้มพิพัฒนกุลที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และแผนงาน มูลนิธิซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ให้เกียรติเป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อนำไปจัดสรรและกระจายยังโรงเรียนต่างๆที่ขาดแคลน สำหรับโครงการ “Double A Fit for Kids ครั้งที่ 3” จัดขึ้น โดยมุ่งหวังสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพพร้อมสร้างสรรค์สังคมที่ดี ด้วยการจัดกิจกรรมเดิน–วิ่งสะสมจำนวนก้าวร่วมกันแบบ Virtual พิชิตภารกิจเป้าหมาย “9 วัน 9 ล้านก้าว” เพื่อร่วมส่งมอบชุดอุปกรณ์เครื่องเขียน อาทิ สมุดนักเรียน สมุดรายงาน ปากกา เป็นต้น พร้อมกระเป๋าสะพาย ให้กับน้องๆ ได้เข้าถึงอุปกรณ์การเรียนที่เพียงพอและมีคุณภาพ กิจกรรมนี้ ไม่เพียงส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมพลังน้ำใจจากผู้ร่วมกิจกรรม ที่มีเป้าหมายสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบขวดพลาสติกอัพไซเคิล โครงการ “แยกเพื่อให้...พี่ไม้กวาด” ของสำนักสิ่งแวดล้อม กทม.

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตัวแทนมอบขวดน้ำพลาสติกใส จำนวน 27 กิโลกรัม จากกิจกรรมที่ดั๊บเบิ้ล เอ รณรงค์ให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะ ซึ่งสามารถนำมาอัพไซเคิล (upcycle) ให้เกิดประโยชน์ ผ่านโครงการมือวิเศษ กรุงเทพ “แยกเพื่อให้...พี่ไม้กวาด” เพื่อนำไปผลิตเป็นเสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการรักษาความสะอาดของกรุงเทพฯ เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน โดยมี นางสาวลลิดา กังวาลชิรธาดา ผู้อำนวยการส่วนบริการจัดการมูลฝอย สำนักงานยุทธศาสตร์จัดการมูลฝอย สำนักสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รับมอบ ณ จุดรับขยะแยกประเภท (Drop off Point) ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกแล้ว ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของดั๊บเบิ้ล เอ ในการส่งเสริมแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) รวมถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ยั่งยืน

ดั๊บเบิ้ล เอ ต้อนรับ กทพ. โชว์ศักยภาพการผลิตมาตรฐานคุณภาพ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะทำงาน ผู้ตรวจประเมิน และเจ้าหน้าที่ระบบบริหารงานคุณภาพด้านบริการ ISO 9001: 2015 จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นำโดย คุณศิริมา ชวนอยู่ รองผู้ว่าการ(บริหาร)กทพ.พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมชมโรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเข้าใจถึงกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษครบวงจรภายใต้ระบบบริหารคุณภาพมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และมาตรฐาน ISO 14001 ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ทำให้แบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศ และส่งออกไปกว่า 130 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ คณะผู้เยี่ยมชมยังได้เรียนรู้โมเดลการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในระบบหมุนเวียน (Circular Economy) และแนวทางการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environment, Social, Governance) ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ยึดถือมาโดยตลอด เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมของชุมชน และธรรมาภิบาลที่โปร่งใส การเยี่ยมชมในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้แสดงถึงศักยภาพ ความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง และการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพให้กับผู้บริโภคและสังคม

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งใจ ส่งความห่วงใย สนับสนุนหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ Double A Care เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขของหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์เครื่องเขียนดั๊บเบิ้ล เอ อาทิ สมุด ดินสอ ปากกา เป็นต้น ให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่ยังขาดแคลน โดยมี นางวาสนา เทียมสุวรรณ ที่ปรึกษาโครงการตามพระดำริและงานส่วนพระองค์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้เกียรติเป็นผู้แทนรับมอบ ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ เล็งเห็นความสำคัญด้านสุขภาพอนามัยของคนไทยและการศึกษาของเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ “Double A ส่งใจ มอบความห่วงใย ทั่วไทย” ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 โดยมอบหน้ากากอนามัยฯ Double A Care แก่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย กลุ่มเปราะบาง และผู้ที่ขาดแคลน รวมถึงการมอบอุปกรณ์เครื่องเขียนเพื่อส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชน และในปี 2568 นี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังคงเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ในการส่งต่อความห่วงใยและพลังบวกสู่สังคมไทย ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน