Follow us

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรมส่งเสริมเยาวชนรักษ์ภาษาไทย

ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผู้คนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม จากการพบปะพูดคุยกัน มาเป็นการสื่อสารข้อความตัวอักษรผ่านอุปกรณ์สื่อสารในโลกออนไลน์ ส่งผลให้การใช้ภาษาไทยผิดเพี้ยน โดยเฉพาะการอ่านและเขียน ที่ใช้ตัวสะกดและคำศัพท์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ภาษาไทย อันเป็นเอกลักษณ์ล้ำค่าที่บ่งบอกความเป็นไทย จะถูกกลืนไปตามเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่


ด้วยเหตุนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จึงร่วมสนับสนุนการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ ของศาลอุทธรณ์ภาค 3 โดยมีกิจกรรมการแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย พร้อมทั้งการจัดเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยร่วมกันอนุรักษ์ภาษาไทยและใช้ภาษาอย่างถูกต้องตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ณ อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กรุงเทพมหานคร

คุณสมพงษ์ คุณกรรณิกา และคุณกนก ร่วมเสวนา หัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา"

สำหรับงานในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 จัดขึ้น ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีนักเรียนเข้าร่วมงานกว่า 200 คน จากทั้งหมด 10 โรงเรียน โดยช่วงแรกเป็นการเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ที่ได้รับเกียรติจากคุณสมพงษ์ เหมวิมล ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นผู้ดำเนินการเสวนา และคุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้ผลิตรายการเวทีวาที พร้อมด้วยคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์และผู้บริหารในเครือเดอะเนชั่น ให้เกียรติร่วมเสวนาในครั้งนี้ ซึ่งมีข้อคิดดีๆในมุมมองนักสื่อสารมวลชนเกี่ยวกับภาษาไทยในยุคนี้ที่น่าสนใจเลยทีเดียว

คุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ ถ่ายภาพร่วมกับคุณบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ คุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตพิธีกร และน้องๆ นักเรียน

"ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาของความรู้สึก ส่วนใหญ่เรามักจะใช้ภาษาไทยไปอย่างไม่มีสติ เช่น เจอหน้าเพื่อน ก็ทักไปว่า มาแล้วเหรอ ทั้งที่เห็นเขาเดินมา การใช้ภาษาลักษณะนี้ถือว่าใช้อย่างฟุ่มเฟือย ไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้ ถ้าถามว่า ไปไหนมา หรือ ทานข้าวแล้วหรือยัง จะดูถูกต้องกว่า" คุณกรรณิกา อดีตพิธีกรชื่อดัง ผู้ซึ่งคร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์ไทยมานาน และเป็นผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลเมขลา เกริ่นนำการเสวนา และเพิ่มเติมว่า ที่ตนเองพูดจาเพราะ และออกเสียงได้ชัดถ้อยชัดคำ เพราะผู้ใหญ่สมัยนั้นพูดจากันไพเราะมาก เด็กจึงหัดจำและเลียนแบบกันมา นอกจากนี้คุณกรรณิกายังแนะนำให้ฝึกฝนการใช้ภาษาไทย ด้วยการ "จำแต่สิ่งดีๆ แล้วนำมาใช้" ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่เพียงเฉพาะการฝึกภาษาไทยเท่านั้น

บรรยากาศงานเสวนา

คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ก็ได้เสริมเรื่องการใช้ภาษาไทยเพิ่มเติมว่า "เด็กในปัจจุบันต่างพูดไม่จบคำ ไม่จบประโยค ออกเสียงไม่ถูกอักขรวิธีเหมือนคนสมัยก่อน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เด็กใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเองและหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีปฏิสัมพันธ์กับรอบข้างน้อยลง ทำให้เด็กขาดความมั่นใจตนเอง ไม่กล้าสบตาผู้อื่นเวลาพูด และไม่สามารถเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ถ่ายทอดออกมาให้ผู้ฟังได้" ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยตรงกับหลานของคุณกนกเองที่อยู่ชั้นมัธยมศึกษา และเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้น คุณกนกก็พยายามพัฒนาหลานตนเอง ด้วยการฝึกให้หลานเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในโรงเรียนให้ฟังทุกวัน เพื่อให้มีความมั่นใจและกล้าพูดกล้าแสดงออกมากขึ้น นอกจากนี้ด้วยวิธีการเรียนของเด็กในปัจจุบันก็มีส่วนให้ทักษะการใช้ภาษาไทยแย่ลง ไม่มีการฝึกท่องอาขยาน หรือฝึกเขียนไทย เหมือนเด็กสมัยก่อนอีกด้วย


สถานการณ์ที่คุณกนกกล่าวมา เป็นปัญหาสำคัญของเด็กไทยสมัยนี้ และมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมจัดงานเสวนา "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ขึ้น ด้วยหวังว่า น้องๆ นักเรียนซึ่งต่อไปจะเป็นอนาคตของชาติ ได้เป็นตัวแทนในการช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทยที่ถูกต้องต่อไป

บรรยากาศการแข่งขัน

ในขณะที่นักเรียนส่วนหนึ่งกำลังรับฟังการเสวนา อีกห้องหนึ่งก็มีกิจกรรมแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย ซึ่งก็ได้เปิดรับสมัครนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เข้าร่วมแข่งขัน มีผู้ผ่านคัดเลือกเข้าสู่รอบตัดสินทั้งสิ้น 20 คน โดยทุกคนต่างก็เตรียมตัวกันเต็มที่ เพื่อประลองแข่งขันเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง ซึ่งจะกำหนดให้เขียนประเภทละ 15 คำ รวมทั้งหมด 30 คำ โดยคำศัพท์ที่นำมาแข่งขันในคราวนี้ นอกจากเป็นคำภาษาไทยที่ใช้กันทั่วไปแล้ว ยังนำภาษากฏหมายที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นหรือใช้มาก่อน ถือได้ว่าเป็นการวัดความรู้ความสามารถของแต่ละคนกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะภาษากฏหมายที่ไม่ได้อยู่ในตำราเรียนของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

น้องสุธัญญา ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน และน้องศรีนรัตน์ ได้รับรางวัลชมเชย

โดยผู้ชนะการแข่งขันอันดับที่ 1 ในครั้งนี้ คือ นางสาวสุธัญญา สนธยาสาระ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหอวัง ซึ่งสมัครเข้ามาร่วมแข่งขัน เพราะสนใจด้านกฏหมาย และอยากเป็นผู้พิพากษา "หนูชอบกฏหมายมากเลยค่ะ พออาจารย์บอกว่า เปิดแข่งขันอยู่ ก็ไม่ลังเลรีบสมัครเข้ามาเลย โดยหนูเตรียมตัวด้วยการอ่านหนังสือประมวลกฏหมายค่ะ ประมาน 1 สัปดาห์ การแข่งขันครั้งนี้คำศัพท์ยากมากเลย ยกตัวอย่างเช่นคำว่า ฉัททันต์ ที่แปลว่า ช้าง เป็นคำที่หนูไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ"

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ มอบกระดาษและอุปกรณ์เครื่องเขียนแก่ นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓

และผู้ที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะของน้องสุธัญญาคือ อาจารย์อรินยา สถิรชาติ หัวหน้ากลุ่มสาระภาษาไทย โรงเรียนหอวัง ซึ่งอาจารย์ได้บอกว่า "ชัยชนะครั้งนี้เหนือความคาดหมายมาก เพราะเวลากระชั้นชิด ไม่ทันได้เตรียมตัว แต่ก็ให้ลูกศิษย์พยายามทำให้ดีที่สุด" และเมื่อถามถึงความเห็นของอาจารย์ต่อการใช้ภาษาในอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน อาจารย์ได้ให้ความเห็นไว้ว่า "โดยส่วนตัวครูไม่ว่าถ้านักเรียนจะใช้คำศัพท์แปลกๆในอินเทอร์เน็ต แต่ควรพิจารณาด้วยว่า คำเหล่านั้นสามารถนำมาใช้กับบุคคลทั่วไปได้หรือไม่ ควรใช้ภาษาแบบใดจึงจะถูกกาลเทศะ และควรคำนึงถึงสังคม สถาบัน ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของตนเองด้วย"

อย่างไรก็ตามน้องๆ ผู้ที่พลาดจากการแข่งขันนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพราะการมาแข่งขันเขียนไทยคราวนี้ เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้น้องๆ รู้ว่า การเข้ามาทำงานในโลกของศาลยุติธรรมนั้น น้องๆ จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง และรู้คำศัพท์เพิ่มเติมที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต่อในอนาคต ดังเช่นความเห็นของน้องศรีนรัตน์ พงษ์ประภาชื่น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ที่ได้รับรางวัลชมเชยในครั้งนี้ "หนูต้องขอขอบคุณศาลอุทธรณ์ภาค 3 และผู้ใหญ่ทุกท่านมากค่ะ ที่ให้โอกาสหนูมาร่วมงานนี้ และได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเตรียมสอบเป็นผู้พิพากษาอย่างที่หนูใฝ่ฝันไว้ค่ะ ก่อนหน้านี้หนูก็เคยมาแข่งอ่านกฏหมายที่นี่ และถ้าทางศาลจัดงานอะไรในอนาคต หนูก็จะมาอีกค่ะ"

นายวัฒนา วิทยกุล รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ และผู้ได้รับรางวัลการแข่งขันเขียนไทย

งานแข่งขันเขียนไทยในวันนั้นจบลงด้วยดี และน้องๆ นักเรียนทุกคนก็ได้ให้คำปฏิญาณว่า ทุกคนจะช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้อย่างสุดความสามารถ ตามคำกล่าวของคุณกรรณิกาที่ว่า "โปรดจงอย่าลืมรากเหง้าของความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษาไทยที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้เรา และยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน"

ข่าวประชาสัมพันธ์

แคมเปญ 1Dream1Tree

ดั๊บเบิ้ล เอ มีการดำเนินธุรกิจภายใต้โมเดล “กระดาษจากคันนา” เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการใช้พื้นที่ว่างเปล่าบนคันนา ซึ่งช่วยให้ชาวนามีรายได้เสริมและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้นได้ส่งผลกระทบที่หลายๆประเทศต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วม หมอกควันจากไฟป่า ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากฝีมือมนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดั๊บเบิ้ลเอ จึงอยากรณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงพลังของผู้บริโภคที่จะดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อม สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายป่า ไม่ตัดไม้จากป่า อันเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาภัยธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “Double A One Dream One Tree” เพื่อปลุกกระแสรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนทุกคนตระหนักว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ดั๊บเบิ้ล เอ รวมพลังแห่งการให้ จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตครั้งที่ 114 

ดั๊บเบิ้ล เอ ตอกย้ำพลังแห่งการให้เพื่อสังคม จัดกิจกรรม “ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมใจบริจาคโลหิต ครั้งที่ 114” ร่วมกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี โดยมีผู้บริหารและพนักงานร่วมบริจาคโลหิตรวมกว่า 40,000 ซีซี เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตสำรองให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือผู้ป่วย รวมทั้งมีผู้ประสงค์ร่วมบริจาคดวงตา อวัยวะและร่างกายอีกด้วย นับเป็นส่วนหนึ่งของการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายวิธรัช รามัญ ปลัดจังหวัดปราจีนบุรี, นางรมิดา เรียงเงิน รามัญ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี และ นางสาวจุฑามาศ บัวเผื่อน นายอำเภอศรีมหาโพธิ ร่วมตรวจเยี่ยมกิจกรรมและให้กำลังใจแก่ผู้บริจาคโลหิต ณ โรงแรมทวาราวดี จังหวัดปราจีนบุรี นอกจากการบริจาคโลหิตแล้ว ยังมีการเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการ OTOP ได้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาจำหน่ายภายในงาน สร้างสีสันและรายได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับคนในท้องถิ่น     พร้อมกันนี้ สำนักงานดั๊บเบิ้ล เอ สาขาฉะเชิงเทรา ยังได้ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตจากพนักงานและประชาชนในพื้นที่ โดยมีปริมาณโลหิตรวมกว่า 19,000 ซีซี     ดั๊บเบิ้ล เอ ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตทุก 3 เดือนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลอดปีนี้ ได้ปริมาณโลหิตสะสมรวมกว่า 218,000 ซีซี มอบให้กับศูนย์บริจาคโลหิต สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและเป็นการสำรองโลหิตให้เพียงพอ ด้วยเจตนารมณ์ของดั๊บเบิ้ล เอ ที่มุ่งมั่น “สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน" ภายใต้แนวคิด "Better Paper Better World"

ดั๊บเบิ้ล เอ คว้า “ฉลากลดโลกร้อน” ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ 32 รายการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม

ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการรับรอง “ฉลากลดโลกร้อน” (Carbon Footprint Reduction -CFR) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สำหรับผลิตภัณฑ์กระดาษจำนวน 32 รายการ ในปี 2025 และในจำนวนนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากลดโลกร้อนต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประเมินผลลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในการขับเคลื่อนสู่ Net Zero     นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า “สำหรับดั๊บเบิ้ล เอ ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงเป้าหมาย แต่เป็นพันธกิจหลักที่เกิดจากเจตนารมณ์ขององค์กร เราพัฒนาทุกกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างแท้จริง การที่จำนวนผลิตภัณฑ์ได้รับฉลากลดโลกร้อน เพิ่มขึ้นเป็น 32 รายการในปีนี้ นับเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของเรา” ความสำเร็จนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สอดคล้องกับแนวทาง ESG และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน พร้อมร่วมกันขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด "Better Paper, Better World" ที่เชื่อว่าทุกคนมีพลังในการดูแลโลกนี้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือฉลากลดโลกร้อน คือ ฉลากที่แสดงว่าผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งเป็นการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมตอกย้ำความสำคัญของการดูแลชีวิตและสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันปฐมพยาบาลโลก 2568 

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นผู้แทนมอบผลิตภัณฑ์ Double A Care ทิชชูเปียกสูตรอ่อนโยน เพื่อร่วมสนับสนุนกิจกรรมเนื่องในวันปฐมพยาบาลโลก ประจำปี 2568 "First Aid and Climate Change" ภายใต้หัวข้อ รู้รอดปลอดภัย : ปฐมพยาบาลอย่างไรในภาวะโลกร้อน เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน ในด้านการปฐมพยาบาลในสถานการณ์ที่อาจเกิดจากภาวะโลกร้อน และเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้มอบ Double A Gift Set เป็นรางวัลให้ผู้เข้าประกวด “First Aid Climate Change Innovation” อีกด้วย โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิริพร พุทธรังษี ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย สภากาชาดไทย (คนที่ 1 จากขวา) และนางอัญชนา สัจจวิโส หัวหน้ากลุ่มงานอบรมสุขภาพอนามัย (คนที่ 1 จากซ้าย) เป็นผู้แทนรับมอบในครั้งนี้ ณ ศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย สภากาชาดไทย

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบ “ถุงใส่ยา รักษ์โลก” ให้รพ.ศรีมหาโพธิ ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า

ดั๊บเบิ้ล เอ เดินหน้าขับเคลื่อนโมเดลทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ภายใต้โครงการ “กระดาษแปลงร่าง ถุงยารักษ์โลก” โดยมอบถุงใส่ยาที่ทำมาจากห่อกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ จำนวน 1,500 ใบ ให้กับโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อใช้ใส่ยาให้ผู้ป่วย และยังสามารถนำกลับมาใช้รับยาในครั้งต่อไปได้ซ้ำ พร้อมทั้งได้มอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย Double A Care อาทิ หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ โดยมี นายสมบูรณ์ทรัพย์ สอสะอาด หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป รพ.ศรีมหาโพธิ เป็นผู้แทนรับมอบ สำหรับโครงการ "กระดาษแปลงร่าง ถุงยารักษ์โลก" เป็นการเปิดรับบริจาคห่อรีมกระดาษที่ใช้แล้วแต่ยังอยู่ในสภาพสะอาดเรียบร้อยดีจากลูกค้าดั๊บเบิ้ล เอ เพื่อนำมาพับเป็นถุงใส่ยา มอบให้สถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อใช้ใส่ยาให้ผู้ป่วย เป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทดแทนการใช้ถุงพลาสติกใหม่ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ ได้มีรายได้เสริมจากการพับถุงยาให้ดั๊บเบิ้ล เอ อีกด้วย สอดคล้องการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามแนวทาง ESG ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ผู้ที่สนใจร่วมบริจาคห่อรีมกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ สามารถส่งมาได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) ที่อยู่ 187/3 หมู่ 1 ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24180

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เข้าชมศักยภาพการผลิตกระดาษคุณภาพ ที่ส่งออกกว่า 130 ประเทศทั่วโลก

 ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยมี นายชัพพล โรจนเสน ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง นำคณะเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษคุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ครบวงจร ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จังหวัดปราจีนบุรี ที่ใช้วัตถุดิบจาก "ต้นกระดาษ" ไม้ปลูกของเกษตรกรไทย ไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดโลกร้อน นอกจากนี้ ยังได้เข้าใจโมเดลการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามแนวทาง Circular Economy และ ESG ขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ แบรนด์กระดาษคุณภาพพรีเมียมเป็นที่ยอมรับทั้งในไทย และต่างประเทศ กว่า 130 ประเทศทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ยิ้มรับข่าวดี! ทริสเรทติ้ง ปรับเพิ่มเครดิตเป็น BBB+ ตอกย้ำความแข็งแกร่งทางการเงิน

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ ขึ้นสู่ระดับ "BBB+" จากเดิม "BBB" โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS) พร้อมปรับเปลี่ยน แนวโน้มอันดับ เครดิตเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของดั๊บเบิ้ล เอ การปรับเพิ่มอันดับเครดิตในครั้งนี้เป็นผลจากการที่บริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการกระแสเงินสดและหนี้สินได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้หนี้สินทางการเงินปรับลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 9.1 พันล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2568 จากเดิมที่ 1.2-1.4 หมื่นล้านบาทในช่วงหลายปีก่อนหน้า ความพยายามในการลดหนี้สินนี้ทำให้บริษัทฯ สามารถควบคุมอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ให้ต่ำกว่า 3 เท่า ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสำหรับการปรับเพิ่มอันดับเครดิต โดยทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถรักษาอัตราส่วนนี้ไว้ที่ 2-3 เท่าในอนาคต นอกจากนี้ การจัดอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงจุดแข็งของดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะผู้นำการผลิตกระดาษสำนักงานในระดับโลก ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ "ดั๊บเบิ้ล เอ" ที่แข็งแกร่ง และการดำเนินงานแบบครบวงจร โดยบริษัทฯ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดกระดาษรีมเล็ก (Cut-size Paper) และมีความได้เปรียบด้านต้นทุนจากการที่บริษัทฯ สามารถควบคุมการผลิตได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทั้งนี้ทริสเรทติ้งได้ให้ความเห็นว่า การปรับเพิ่มอันดับเครดิตดังกล่าวเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ และคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งและมีผลการดำเนินงานในระดับที่น่าพอใจเอาไว้ได้ ในขณะที่ยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินด้วยความระมัดระวัง ซึ่งจะทำให้ผลกำไรและระดับหนี้สินของบริษัทฯ สอดคล้องกับประมาณการ การประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของ “ดั๊บเบิ้ล เอ” ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินได้อย่างรอบคอบ