Follow us

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรมส่งเสริมเยาวชนรักษ์ภาษาไทย

ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผู้คนเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม จากการพบปะพูดคุยกัน มาเป็นการสื่อสารข้อความตัวอักษรผ่านอุปกรณ์สื่อสารในโลกออนไลน์ ส่งผลให้การใช้ภาษาไทยผิดเพี้ยน โดยเฉพาะการอ่านและเขียน ที่ใช้ตัวสะกดและคำศัพท์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ภาษาไทย อันเป็นเอกลักษณ์ล้ำค่าที่บ่งบอกความเป็นไทย จะถูกกลืนไปตามเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงของโลกสมัยใหม่


ด้วยเหตุนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จึงร่วมสนับสนุนการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติ ของศาลอุทธรณ์ภาค 3 โดยมีกิจกรรมการแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย พร้อมทั้งการจัดเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยร่วมกันอนุรักษ์ภาษาไทยและใช้ภาษาอย่างถูกต้องตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ณ อาคารสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กรุงเทพมหานคร

คุณสมพงษ์ คุณกรรณิกา และคุณกนก ร่วมเสวนา หัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา"

สำหรับงานในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 จัดขึ้น ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีนักเรียนเข้าร่วมงานกว่า 200 คน จากทั้งหมด 10 โรงเรียน โดยช่วงแรกเป็นการเสวนาในหัวข้อ "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ที่ได้รับเกียรติจากคุณสมพงษ์ เหมวิมล ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นผู้ดำเนินการเสวนา และคุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้ผลิตรายการเวทีวาที พร้อมด้วยคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์และผู้บริหารในเครือเดอะเนชั่น ให้เกียรติร่วมเสวนาในครั้งนี้ ซึ่งมีข้อคิดดีๆในมุมมองนักสื่อสารมวลชนเกี่ยวกับภาษาไทยในยุคนี้ที่น่าสนใจเลยทีเดียว

คุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ ถ่ายภาพร่วมกับคุณบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ คุณกรรณิกา ธรรมเกษร อดีตพิธีกร และน้องๆ นักเรียน

"ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาของความรู้สึก ส่วนใหญ่เรามักจะใช้ภาษาไทยไปอย่างไม่มีสติ เช่น เจอหน้าเพื่อน ก็ทักไปว่า มาแล้วเหรอ ทั้งที่เห็นเขาเดินมา การใช้ภาษาลักษณะนี้ถือว่าใช้อย่างฟุ่มเฟือย ไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้ ถ้าถามว่า ไปไหนมา หรือ ทานข้าวแล้วหรือยัง จะดูถูกต้องกว่า" คุณกรรณิกา อดีตพิธีกรชื่อดัง ผู้ซึ่งคร่ำหวอดในวงการโทรทัศน์ไทยมานาน และเป็นผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลเมขลา เกริ่นนำการเสวนา และเพิ่มเติมว่า ที่ตนเองพูดจาเพราะ และออกเสียงได้ชัดถ้อยชัดคำ เพราะผู้ใหญ่สมัยนั้นพูดจากันไพเราะมาก เด็กจึงหัดจำและเลียนแบบกันมา นอกจากนี้คุณกรรณิกายังแนะนำให้ฝึกฝนการใช้ภาษาไทย ด้วยการ "จำแต่สิ่งดีๆ แล้วนำมาใช้" ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่เพียงเฉพาะการฝึกภาษาไทยเท่านั้น

บรรยากาศงานเสวนา

คุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ก็ได้เสริมเรื่องการใช้ภาษาไทยเพิ่มเติมว่า "เด็กในปัจจุบันต่างพูดไม่จบคำ ไม่จบประโยค ออกเสียงไม่ถูกอักขรวิธีเหมือนคนสมัยก่อน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เด็กใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับตัวเองและหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีปฏิสัมพันธ์กับรอบข้างน้อยลง ทำให้เด็กขาดความมั่นใจตนเอง ไม่กล้าสบตาผู้อื่นเวลาพูด และไม่สามารถเรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ ถ่ายทอดออกมาให้ผู้ฟังได้" ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยตรงกับหลานของคุณกนกเองที่อยู่ชั้นมัธยมศึกษา และเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้น คุณกนกก็พยายามพัฒนาหลานตนเอง ด้วยการฝึกให้หลานเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในโรงเรียนให้ฟังทุกวัน เพื่อให้มีความมั่นใจและกล้าพูดกล้าแสดงออกมากขึ้น นอกจากนี้ด้วยวิธีการเรียนของเด็กในปัจจุบันก็มีส่วนให้ทักษะการใช้ภาษาไทยแย่ลง ไม่มีการฝึกท่องอาขยาน หรือฝึกเขียนไทย เหมือนเด็กสมัยก่อนอีกด้วย


สถานการณ์ที่คุณกนกกล่าวมา เป็นปัญหาสำคัญของเด็กไทยสมัยนี้ และมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และดั๊บเบิ้ล เอ ได้ร่วมจัดงานเสวนา "ภาษาไทย ภาษากฎหมาย ภาษาของเรา" ขึ้น ด้วยหวังว่า น้องๆ นักเรียนซึ่งต่อไปจะเป็นอนาคตของชาติ ได้เป็นตัวแทนในการช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทยที่ถูกต้องต่อไป

บรรยากาศการแข่งขัน

ในขณะที่นักเรียนส่วนหนึ่งกำลังรับฟังการเสวนา อีกห้องหนึ่งก็มีกิจกรรมแข่งขันเขียนภาษาไทยทั่วไปและภาษากฎหมาย ซึ่งก็ได้เปิดรับสมัครนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เข้าร่วมแข่งขัน มีผู้ผ่านคัดเลือกเข้าสู่รอบตัดสินทั้งสิ้น 20 คน โดยทุกคนต่างก็เตรียมตัวกันเต็มที่ เพื่อประลองแข่งขันเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง ซึ่งจะกำหนดให้เขียนประเภทละ 15 คำ รวมทั้งหมด 30 คำ โดยคำศัพท์ที่นำมาแข่งขันในคราวนี้ นอกจากเป็นคำภาษาไทยที่ใช้กันทั่วไปแล้ว ยังนำภาษากฏหมายที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นหรือใช้มาก่อน ถือได้ว่าเป็นการวัดความรู้ความสามารถของแต่ละคนกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะภาษากฏหมายที่ไม่ได้อยู่ในตำราเรียนของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

น้องสุธัญญา ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน และน้องศรีนรัตน์ ได้รับรางวัลชมเชย

โดยผู้ชนะการแข่งขันอันดับที่ 1 ในครั้งนี้ คือ นางสาวสุธัญญา สนธยาสาระ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนหอวัง ซึ่งสมัครเข้ามาร่วมแข่งขัน เพราะสนใจด้านกฏหมาย และอยากเป็นผู้พิพากษา "หนูชอบกฏหมายมากเลยค่ะ พออาจารย์บอกว่า เปิดแข่งขันอยู่ ก็ไม่ลังเลรีบสมัครเข้ามาเลย โดยหนูเตรียมตัวด้วยการอ่านหนังสือประมวลกฏหมายค่ะ ประมาน 1 สัปดาห์ การแข่งขันครั้งนี้คำศัพท์ยากมากเลย ยกตัวอย่างเช่นคำว่า ฉัททันต์ ที่แปลว่า ช้าง เป็นคำที่หนูไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ"

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ มอบกระดาษและอุปกรณ์เครื่องเขียนแก่ นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓

และผู้ที่อยู่เบื้องหลังชัยชนะของน้องสุธัญญาคือ อาจารย์อรินยา สถิรชาติ หัวหน้ากลุ่มสาระภาษาไทย โรงเรียนหอวัง ซึ่งอาจารย์ได้บอกว่า "ชัยชนะครั้งนี้เหนือความคาดหมายมาก เพราะเวลากระชั้นชิด ไม่ทันได้เตรียมตัว แต่ก็ให้ลูกศิษย์พยายามทำให้ดีที่สุด" และเมื่อถามถึงความเห็นของอาจารย์ต่อการใช้ภาษาในอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน อาจารย์ได้ให้ความเห็นไว้ว่า "โดยส่วนตัวครูไม่ว่าถ้านักเรียนจะใช้คำศัพท์แปลกๆในอินเทอร์เน็ต แต่ควรพิจารณาด้วยว่า คำเหล่านั้นสามารถนำมาใช้กับบุคคลทั่วไปได้หรือไม่ ควรใช้ภาษาแบบใดจึงจะถูกกาลเทศะ และควรคำนึงถึงสังคม สถาบัน ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของตนเองด้วย"

อย่างไรก็ตามน้องๆ ผู้ที่พลาดจากการแข่งขันนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพราะการมาแข่งขันเขียนไทยคราวนี้ เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้น้องๆ รู้ว่า การเข้ามาทำงานในโลกของศาลยุติธรรมนั้น น้องๆ จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง และรู้คำศัพท์เพิ่มเติมที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาต่อในอนาคต ดังเช่นความเห็นของน้องศรีนรัตน์ พงษ์ประภาชื่น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ที่ได้รับรางวัลชมเชยในครั้งนี้ "หนูต้องขอขอบคุณศาลอุทธรณ์ภาค 3 และผู้ใหญ่ทุกท่านมากค่ะ ที่ให้โอกาสหนูมาร่วมงานนี้ และได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเตรียมสอบเป็นผู้พิพากษาอย่างที่หนูใฝ่ฝันไว้ค่ะ ก่อนหน้านี้หนูก็เคยมาแข่งอ่านกฏหมายที่นี่ และถ้าทางศาลจัดงานอะไรในอนาคต หนูก็จะมาอีกค่ะ"

นายวัฒนา วิทยกุล รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค ๓ และผู้ได้รับรางวัลการแข่งขันเขียนไทย

งานแข่งขันเขียนไทยในวันนั้นจบลงด้วยดี และน้องๆ นักเรียนทุกคนก็ได้ให้คำปฏิญาณว่า ทุกคนจะช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้อย่างสุดความสามารถ ตามคำกล่าวของคุณกรรณิกาที่ว่า "โปรดจงอย่าลืมรากเหง้าของความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษาไทยที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้เรา และยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน"

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับนักศึกษา คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดโรงงานต้อนรับคณาจารย์และนักศึกษาคณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตปราจีนบุรี เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษคุณภาพ ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบครบวงจรและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้เข้าเยี่ยมชมได้เรียนรู้ถึงกระบวนการผลิตกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งใช้ วัตถุดิบจากไม้ปลูก แทนการใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ ช่วยสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร เพิ่มพื้นที่สีเขียว และช่วยสร้างสังคมที่ยั่งยืน นอกจากนี้ คณะผู้เยี่ยมชมยังได้ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรตามแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ดั๊บเบิ้ล เอ นำมาใช้ในทุกขั้นตอนของการผลิต โดยนำของเหลือใช้ เช่น เปลือกไม้และน้ำยางไม้ มาใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลผลิตไฟฟ้าใช้ภายในกลุ่มโรงงาน ขณะที่ไอน้ำที่เกิดขึ้นยังถูกนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตกระดาษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ตลอดจนการมีระบบ Chemical Recovery ที่นำสารเคมีใช้แล้วกลับมารีไซเคิลใช้ซ้ำอย่างปลอดภัย ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่และลดของเสียในกระบวนการผลิต ถือเป็นการดำเนินงานตามแนวทาง ESG (Environment, Social, Governance) อย่างต่อเนื่อง กิจกรรมเยี่ยมชมในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน เข้าใจระบบการผลิตและการจัดการของภาคอุตสาหกรรม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต

ดั๊บเบิ้ล เอ ต้อนรับคณะโลจิสติกส์ ม.บูรพา เยี่ยมชมโรงงานผลิตกระดาษยั่งยืนตามแนวคิด Circular Economy

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณาจารย์และนักศึกษาคณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตกระดาษครบวงจร ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศทั่วโลก เพื่อเรียนรู้แนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งคณะเยี่ยมชมได้สัมผัสกระบวนการผลิตกระดาษตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยดั๊บเบิ้ล เอ ใช้วัตถุดิบจากไม้ปลูก ไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ เป็นการส่งเสริมเกษตรกรปลูก"ต้นกระดาษ"ไม้เศรษฐกิจที่ช่วยสร้างรายได้เสริม พร้อมช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวและดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ คณะเยี่ยมชมยังได้เรียนรู้แนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ดั๊บเบิ้ล เอ นำมาใช้ในกระบวนการผลิตอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การนำของเหลือใช้จากการผลิต อาทิ เปลือกไม้ เศษไม้ และน้ำยางไม้ มาใช้เป็น เชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass Energy) ผลิตไฟฟ้าใช้ภายในกลุ่มโรงงาน ตลอดจนการนำสารเคมีใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ในการผลิต (Chemical Recovery) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด การเยี่ยมชมครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของดั๊บเบิ้ล เอ ในการส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ได้รับประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน เข้าใจถึงระบบโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษแบบครบวงจร เพื่อนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพและพัฒนาตนเองต่อไปในอนาคต

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดโลกการเรียนรู้ ต้อนรับนักเรียนโรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) ชมการผลิตกระดาษจากไม้ปลูกของเกษตรกร

ดั๊บเบิ้ล เอ ยินดีต้อนรับและเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ ให้น้องๆ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ5 (เตรียมวิศวกรรม) และคณาจารย์จากโรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) จ.ชลบุรี เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษครบวงจรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งใช้วัตถุดิบจาก "ต้นกระดาษ" ผ่านการวิจัยและพัฒนาที่เหมาะสมกับการผลิตกระดาษคุณภาพ พร้อมยังส่งเสริมเป็นไม้เศรษฐกิจให้เกษตรกรปลูก สร้างรายได้และเพิ่มพื้นที่สีเขียว มีส่วนช่วยลดผลกระทบภาวะโลกร้อนอีกด้วย นอกจากนั้นได้เรียนรู้การใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างรู้คุณค่า โดยนำของเหลือใช้จากกระบวนการผลิต อาทิ เปลือกไม้ และน้ำมันยางไม้ นำมาเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลผลิตไฟฟ้าใช้ในโรงงาน ส่วนไอน้ำที่ได้จากการผลิตไฟฟ้ายังนำมาใช้ในกระบวนการผลิตกระดาษ  รวมทั้งระบบนำสารเคมีใช้แล้ว (Chemical Recovery) กลับมาใช้ใหม่ นับเป็นอุตสาหกรรมที่มีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน  ณ โรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จังหวัดปราจีนบุรี  สำหรับการเยี่ยมชมในครั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ อยากให้น้องๆ ได้สัมผัสและเห็นการทำงานผ่านผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จริง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่อาชีพให้กับน้องๆ ในอนาคต 

"ดั๊บเบิ้ล เอ แต้มปันสุข ครั้งที่ 7" มอบสมุดเพื่อการศึกษา ให้น้อง ๆ ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ

ดั๊บเบิ้ล เอ เดินหน้าสนับสนุนการศึกษา เพราะการศึกษาไม่ควรหยุดชะงักแม้ในยามวิกฤติ โดย นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตัวแทนมอบ "สมุดเพื่อการศึกษา" จำนวนกว่า 2,400 เล่ม ให้แก่น้อง ๆ ในโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือ ภายใต้โครงการ “ดั๊บเบิ้ล เอ แต้มปันสุข ครั้งที่ 7” ที่เชิญชวนลูกค้ากระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มาร่วมปันความสุขด้วยการนำแต้มสะสม Double A QR Rewards จากการสแกน QR Code ข้างกล่อง เปลี่ยนเป็นสมุดเพื่อการศึกษา จำนวน 1 เล่ม และดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมสมทบเพิ่มให้อีก 1 เล่ม ผ่านมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ นำไปส่งต่อยังน้อง ๆ ที่ขาดแคลนได้มีอุปกรณ์การเรียนที่สำคัญ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง โดยมี นายทวีโชค สุโภภาค ผู้จัดการแผนกระดมทุนผู้อุปการะรายใหญ่ ฝ่ายระดมทุนและสื่อสารองค์กร มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ (ด้านขวามือ) เป็นผู้แทนรับมอบในครั้งนี้ สำหรับโครงการแต้มปันสุข ครั้งที่ 7 มีวัตถุประสงค์ที่อยากให้ลูกค้าดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีส่วนร่วม ในการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้กับน้อง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมทั้งให้กำลังใจเพื่อผ่านวิกฤติไปด้วยกัน “สมุดหนึ่งเล่มอาจเล็กน้อย แต่สำหรับเด็ก ๆ ที่กำลังเผชิญวิกฤติ มันคือเครื่องมือสำคัญต่อความรู้และความฝันต่อไปในอนาคต ผมขอขอบคุณพลังแห่งการแบ่งปันจากลูกค้าทุกท่าน ที่ร่วมเปลี่ยนแต้มเล็ก ๆให้เป็นรอยยิ้มและโอกาสครั้งใหญ่แก่น้อง ๆ” นายชาญวิทย์ กล่าว โครงการ “แต้มปันสุข” ไม่เพียงสะท้อนการดำเนินงานด้าน ESG ของดั๊บเบิ้ล เอ เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน สร้างสังคมการเรียนรู้ ขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ดั๊บเบิ้ล เอ ผนึก โลตัส โกเฟรช ขยายจุดบริการ “Double A Fastprint” อีก 30 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ยกระดับความสะดวกให้ชีวิตยุคดิจิทัล ดั๊บเบิ้ล เอ เดินหน้าขยายจุดบริการ “Double A Fastprint” อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือ โลตัส โกเฟรช (Lotus’s Go Fresh) เพิ่มจุดให้บริการใหม่อีก 30 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใต้สโลแกน “งานดี พรินต์ไว สั่งเองได้ทุกเวลา” เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งพรินต์งานง่ายๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชัน Double A Fastprint ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และงานพรินต์สีสวยคมชัด ด้วยกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ 90 แกรม คุณภาพระดับพรีเมียมทุกแผ่น ทั้งแบบขาวดำและสี โดยคุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ กรรมการบริษัทและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ดั๊บเบิ้ล เอ และคุณอรณัชชา จองบุญวัฒนา Senior Manager - Mall Leasing (Go Fresh) ร่วมเปิดจุดให้บริการใหม่อย่างเป็นทางการ ณ โลตัส โกเฟรช พัฒนาการ 32 ทั้งนี้ Double A Fastprint มีจุดให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ กว่า 1,500 จุด ทั้งในสถาบันการศึกษา, Chain Store, คอนโดมิเนียม/หอพัก, MRT และ Co-Working Space เป็นต้น พิเศษ! สำหรับผู้สมัครใช้งานแอปฯ Double A Fastprint ครั้งแรก รับเครดิตทดลองพรินต์ฟรี 10 บาททันที สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจุดบริการเพิ่มเติมได้ทางแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ www.doubleafastprint.com รายชื่อจุดให้บริการ Double A Fastprint ใน โลตัส โกเฟรช ทั้ง 10 สาขานำร่องที่เปิดแล้ววันนี้ ได้แก่ - Lotus's go fresh ช่างอากาศ อุทิศ ซอย 3 เขตดอนเมือง - Lotus's go fresh ตลาดสินทวี พระราม 2 เขตจอมทอง - Lotus's go fresh พัฒนาการ 32 เขตสวนหลวง - Lotus's go fresh เลียบคลองภาษีเจริญใต้ เขตหนองแขม - Lotus's go fresh ทาวน์อินทาวน์ เขตวังทองหลาง - Lotus's go fresh นิชาดาธานี อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี - Lotus's go fresh สรงประภา 30 เขตดอนเมือง - Lotus's go fresh เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม - Lotus's go fresh ช็อป ซิลล่า เขตลาดกระบัง - Lotus's go fresh งามวงศ์วาน 43 เขตหลักสี่

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับบริษัทผู้เช่าอาคารสำนักงานจากโครงการ One Bangkok เยี่ยมชมโรงงานผลิตกระดาษรักษ์โลก พร้อมปลูกต้นกระดาษเพื่อทุนการศึกษา สานต่อแนวคิด “Better Paper Better World”

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับบริษัทผู้เช่าอาคารสำนักงานภายในอาคาร One Bangkok Tower 3 และ One Bangkok Tower 4 เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตเยื่อและกระดาษคุณภาพพรีเมียม จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “Better Paper Better World” มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเลือกใช้วัตถุดิบจาก “ต้นกระดาษ” ซึ่งเป็นไม้ปลูก ไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร พร้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ทั้งยังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เพื่อลดการใช้น้ำและพลังงาน ตลอดจนหมุนเวียนของเหลือจากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่อย่างรู้คุณค่า ตามแนวทาง Circular Economy ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทุกท่านที่เยี่ยมชมยังได้ร่วมกิจกรรม “ปลูกต้นกระดาษเพื่อทุนการศึกษา” ให้กับน้อง ๆ โรงเรียนบ้านท่าตูม จังหวัดปราจีนบุรี โดยต้นกล้าทุกต้นที่ปลูกในกิจกรรมจะเติบโตเป็นทุนการศึกษาต่อไปในอนาคต และที่พิเศษคือ ทาง One Bangkok ได้นำปุ๋ยหมักชีวภาพที่ผลิตจากเศษอาหารภายในโครงการ มามอบให้ใช้บำรุงต้นกล้ากระดาษในโครงการดังกล่าว เพื่อให้เติบโตและเป็นสัญลักษณ์ของการจัดการสิ่งเหลือใช้สู่การสร้างอนาคตที่ดีกว่า สอดคล้องกับที่ดั๊บเบิ้ล เอ ให้ความสำคัญเรื่อง "No Waste is Wasted" พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมมอบอุปกรณ์การเรียน และหน้ากากอนามัย Double A Care ใช้สำหรับป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวนให้กับน้อง ๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดีอีกด้วย กิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการผสานพลังความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและชุมชนในการสร้างคุณค่ากลับคืนสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม