Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งเสริมรักการอ่าน โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

โครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง "

 

         เพราะเป็นองค์กรที่ส่งเสริมด้านสังคมรักการอ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ดั๊บเบิ้ล เอ ไม่หยุดยั้งที่จะเดินหน้า

ส่งเสริมโครงการดีๆ ที่จะกระตุ้นให้เด็กไทยหันมาใส่ใจและรักการอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ

ได้ร่วมกับโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม และโรงเรียนคลองบางกะสี  2 โรงเรียนที่มีความคิดสร้างสรรค์ของ

จ.สมุทรปราการ จัดทำโครงการ "สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง" ด้วยการนำกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้แล้วด้านเดียว มาทำหนังสือหน้าสองให้เป็นหนังสือที่น่าอ่าน น่าติดตาม และที่สำคัญน้องๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

 

         สำหรับโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ อาจารย์นางภาวนา  มีกลิ่นหอม  อาจารย์โรงเรียนคลองบางกะสี  จ.สมุทรปราการ ได้เล่าให้ฟังว่า โรงเรียนได้จัดทำโครงการ " สื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง " มาตั้งแต่ปี 2546 โดยทางโรงเรียนมองว่าในแต่ละวันเราใช้กระดาษถ่ายเอกสารเป็นจำนวนมาก และส่วน-ใหญ่เป็นการใช้กระดาษเพียงหน้าเดียว ส่วนอีกหน้าที่เหลือไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะอีกด้วย ดังนั้นทางโรงเรียนจึงเกิดแนวคิดในการนำกระดาษอีก 1 หน้าที่เหลืออยู่มาทำให้เกิดประโยชน์ จึงนำกระดาษที่เหลือมาทำหนังสือในรูปแบบของหนังสือทำมือ โดยนำไปสอดแทรกในวิชาศิลปะเพื่อให้เด็กๆได้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้น้องๆ ในโรงเรียนหันมาสนใจการอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกด้วย จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2546
 

         โดยรูปแบบของสื่อทำมือ หนังสือหน้าสอง จะเน้นการนำเรื่องราวต่างๆที่เป็นความรู้ ไม่ว่าจะเป็น นิทาน  การละ-เล่น  ขนบธรรมเนียมประเพณี  ชื่อสัตว์  ชื่อผลไม้  คำศัพท์ต่างๆ มาประกอบรูปภาพ และจัดทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจดึงดูดอยากหยิบมาอ่าน เช่น หนังสือ POP-UP   หนังสือยืด  หนังสือหน้าเดียว  หนังสือกล่อง  หนังสือโคม  เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมรักการอ่านแล้ว ยังทำให้เด็กนักเรียนได้มีความคิดสร้างสรรค์  มีความอดทน รู้จักวิเคราะห์และจับประเด็นให้เนื้อหาอยู่ในหน้ากระดาษที่จำกัดได้ โดยไม่ละทิ้งใจความสำคัญ และยังทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานอีกด้วย

 

         ส่วนโรงเรียนบางบ่อพิทยาคม ได้นำโครงการผลิตสื่อหนังสือทำมือสอดแทรกในวิชาภาษาไทย โดยให้นักเรียนทำหนังสือทำมือให้รุ่นน้องและเพื่อนในโรงเรียนได้อ่าน จัดเป็นมุมหนังสือต่างๆ ทั่วโรงเรียน และทุกห้องเรียนจะต้องมีมุมหนังสือ เพื่อให้เด็กๆได้สร้างนิสัยรักการอ่านให้เป็นกิจวัตรติดตัวไปจนโต โดยความโดดเด่นของหนังสือทำมือของโรงเรียนจะนำเนื้อหาที่ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ในท้องถิ่นของอำเภอบางบ่อ เช่น การละเล่นท้องถิ่นของบางบ่อที่เรียกว่า "ผะหมี" (โจ๊ก) เป็นร้อยกรองปริศนาให้ทายกัน ซึ่งเป็นการละเล่นที่นับวันจะค่อยๆ สูญหายไปจากอำเภอหากไม่มีการสืบทอดกันไว้

 

         สำหรับการละเล่น "ผะหมี" อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า น้องๆ จะนำเนื้อหาต่างๆ มาแต่งเป็นร้อยกรอง

ปริศนาคำทาย ตัวอย่างเช่น

 

                   พระ   หนึ่งชำนาญด้าน ดนตรี    (คำตอบ พระอภัยมณี)
                   พระ   หนึ่งหลงสาวศรี พี่น้อง    (คำตอบ พระลอ)
                   พระ   หนึ่งวุ่นราวี ดึงนุช มานา    คำตอบ พระราม)
                   พระ   หนึ่งโปรยทานก้อง ส่ำสร้างผลบุญ    (คำตอบ พระเวสสันดร)

 

         ซึ่งนอกจากจะสร้างความรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนทำและคนทายแล้ว ยังสร้างความสนุกสนานและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในกลุ่มของนักเรียนในโรงเรียน ส่งผลให้ได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจาก สพฐ. ในปี 2548  โดยในเรื่องนี้  "น้องชนะพล  ปานสมบัติ" นักเรียนชั้น ม.5 รร.บางบ่อพิทยาคม ได้เล่าให้ฟังว่า  "โครงการดังกล่าวมีส่วนช่วยส่งเสริมรักการอ่านได้มาก เพราะมีรูปแบบและสีสันที่สวยงามน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนก็ให้ความสนใจ มีการสอนการทำให้กับรุ่นน้องๆ ด้วย เพราะม.4-ม.6 จะจัดทำให้น้องๆ ม.ต้นได้อ่าน ซึ่งผมจะชอบเนื้อหาเป็นเรื่องเอกลักษณ์ไทย เพราะส่วนใหญ่รุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก เช่น ขนมไทย วรรณคดีไทย ประวัติศาสตร์  และเนื้อหาธรรมะ เพราะปัจจุบันคนเรามีความเครียดมาก ถ้าได้อ่านหนังสือธรรมะก็ช่วยให้จิตใจดีขึ้น"

 

         โครงการดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นการเริ่มต้นสร้างสรรค์จากผลงานภายในโรงเรียน แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่หลายๆ โรงเรียนสามารถนำมาเป็นต้นแบบในการนำไปปฏิบัติได้ เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กไทยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้น้องๆรักการอ่านเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

"ดั๊บเบิ้ล เอ แต้มปันสุข ครั้งที่ 7" มอบสมุดเพื่อการศึกษา ให้น้อง ๆ ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ

ดั๊บเบิ้ล เอ เดินหน้าสนับสนุนการศึกษา เพราะการศึกษาไม่ควรหยุดชะงักแม้ในยามวิกฤติ โดย นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตัวแทนมอบ "สมุดเพื่อการศึกษา" จำนวนกว่า 2,400 เล่ม ให้แก่น้อง ๆ ในโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือ ภายใต้โครงการ “ดั๊บเบิ้ล เอ แต้มปันสุข ครั้งที่ 7” ที่เชิญชวนลูกค้ากระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มาร่วมปันความสุขด้วยการนำแต้มสะสม Double A QR Rewards จากการสแกน QR Code ข้างกล่อง เปลี่ยนเป็นสมุดเพื่อการศึกษา จำนวน 1 เล่ม และดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมสมทบเพิ่มให้อีก 1 เล่ม ผ่านมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ นำไปส่งต่อยังน้อง ๆ ที่ขาดแคลนได้มีอุปกรณ์การเรียนที่สำคัญ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง โดยมี นายทวีโชค สุโภภาค ผู้จัดการแผนกระดมทุนผู้อุปการะรายใหญ่ ฝ่ายระดมทุนและสื่อสารองค์กร มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ (ด้านขวามือ) เป็นผู้แทนรับมอบในครั้งนี้ สำหรับโครงการแต้มปันสุข ครั้งที่ 7 มีวัตถุประสงค์ที่อยากให้ลูกค้าดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีส่วนร่วม ในการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้กับน้อง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมทั้งให้กำลังใจเพื่อผ่านวิกฤติไปด้วยกัน “สมุดหนึ่งเล่มอาจเล็กน้อย แต่สำหรับเด็ก ๆ ที่กำลังเผชิญวิกฤติ มันคือเครื่องมือสำคัญต่อความรู้และความฝันต่อไปในอนาคต ผมขอขอบคุณพลังแห่งการแบ่งปันจากลูกค้าทุกท่าน ที่ร่วมเปลี่ยนแต้มเล็ก ๆให้เป็นรอยยิ้มและโอกาสครั้งใหญ่แก่น้อง ๆ” นายชาญวิทย์ กล่าว โครงการ “แต้มปันสุข” ไม่เพียงสะท้อนการดำเนินงานด้าน ESG ของดั๊บเบิ้ล เอ เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วน สร้างสังคมการเรียนรู้ ขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ดั๊บเบิ้ล เอ ผนึก โลตัส โกเฟรช ขยายจุดบริการ “Double A Fastprint” อีก 30 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ยกระดับความสะดวกให้ชีวิตยุคดิจิทัล ดั๊บเบิ้ล เอ เดินหน้าขยายจุดบริการ “Double A Fastprint” อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือ โลตัส โกเฟรช (Lotus’s Go Fresh) เพิ่มจุดให้บริการใหม่อีก 30 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใต้สโลแกน “งานดี พรินต์ไว สั่งเองได้ทุกเวลา” เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งพรินต์งานง่ายๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชัน Double A Fastprint ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และงานพรินต์สีสวยคมชัด ด้วยกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ 90 แกรม คุณภาพระดับพรีเมียมทุกแผ่น ทั้งแบบขาวดำและสี โดยคุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ กรรมการบริษัทและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ดั๊บเบิ้ล เอ และคุณอรณัชชา จองบุญวัฒนา Senior Manager - Mall Leasing (Go Fresh) ร่วมเปิดจุดให้บริการใหม่อย่างเป็นทางการ ณ โลตัส โกเฟรช พัฒนาการ 32 ทั้งนี้ Double A Fastprint มีจุดให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ กว่า 1,500 จุด ทั้งในสถาบันการศึกษา, Chain Store, คอนโดมิเนียม/หอพัก, MRT และ Co-Working Space เป็นต้น พิเศษ! สำหรับผู้สมัครใช้งานแอปฯ Double A Fastprint ครั้งแรก รับเครดิตทดลองพรินต์ฟรี 10 บาททันที สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจุดบริการเพิ่มเติมได้ทางแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ www.doubleafastprint.com รายชื่อจุดให้บริการ Double A Fastprint ใน โลตัส โกเฟรช ทั้ง 10 สาขานำร่องที่เปิดแล้ววันนี้ ได้แก่ - Lotus's go fresh ช่างอากาศ อุทิศ ซอย 3 เขตดอนเมือง - Lotus's go fresh ตลาดสินทวี พระราม 2 เขตจอมทอง - Lotus's go fresh พัฒนาการ 32 เขตสวนหลวง - Lotus's go fresh เลียบคลองภาษีเจริญใต้ เขตหนองแขม - Lotus's go fresh ทาวน์อินทาวน์ เขตวังทองหลาง - Lotus's go fresh นิชาดาธานี อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี - Lotus's go fresh สรงประภา 30 เขตดอนเมือง - Lotus's go fresh เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม - Lotus's go fresh ช็อป ซิลล่า เขตลาดกระบัง - Lotus's go fresh งามวงศ์วาน 43 เขตหลักสี่

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับบริษัทผู้เช่าอาคารสำนักงานจากโครงการ One Bangkok เยี่ยมชมโรงงานผลิตกระดาษรักษ์โลก พร้อมปลูกต้นกระดาษเพื่อทุนการศึกษา สานต่อแนวคิด “Better Paper Better World”

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับบริษัทผู้เช่าอาคารสำนักงานภายในอาคาร One Bangkok Tower 3 และ One Bangkok Tower 4 เข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตเยื่อและกระดาษคุณภาพพรีเมียม จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “Better Paper Better World” มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเลือกใช้วัตถุดิบจาก “ต้นกระดาษ” ซึ่งเป็นไม้ปลูก ไม่รบกวนไม้จากป่าธรรมชาติ ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร พร้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ทั้งยังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เพื่อลดการใช้น้ำและพลังงาน ตลอดจนหมุนเวียนของเหลือจากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่อย่างรู้คุณค่า ตามแนวทาง Circular Economy ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทุกท่านที่เยี่ยมชมยังได้ร่วมกิจกรรม “ปลูกต้นกระดาษเพื่อทุนการศึกษา” ให้กับน้อง ๆ โรงเรียนบ้านท่าตูม จังหวัดปราจีนบุรี โดยต้นกล้าทุกต้นที่ปลูกในกิจกรรมจะเติบโตเป็นทุนการศึกษาต่อไปในอนาคต และที่พิเศษคือ ทาง One Bangkok ได้นำปุ๋ยหมักชีวภาพที่ผลิตจากเศษอาหารภายในโครงการ มามอบให้ใช้บำรุงต้นกล้ากระดาษในโครงการดังกล่าว เพื่อให้เติบโตและเป็นสัญลักษณ์ของการจัดการสิ่งเหลือใช้สู่การสร้างอนาคตที่ดีกว่า สอดคล้องกับที่ดั๊บเบิ้ล เอ ให้ความสำคัญเรื่อง "No Waste is Wasted" พร้อมกันนี้ ยังได้ร่วมมอบอุปกรณ์การเรียน และหน้ากากอนามัย Double A Care ใช้สำหรับป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวนให้กับน้อง ๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดีอีกด้วย กิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการผสานพลังความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและชุมชนในการสร้างคุณค่ากลับคืนสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม

ดั๊บเบิ้ล เอ รวมพลังแห่งการให้ จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตครั้งที่ 114 

ดั๊บเบิ้ล เอ ตอกย้ำพลังแห่งการให้เพื่อสังคม จัดกิจกรรม “ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมใจบริจาคโลหิต ครั้งที่ 114” ร่วมกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี โดยมีผู้บริหารและพนักงานร่วมบริจาคโลหิตรวมกว่า 40,000 ซีซี เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตสำรองให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือผู้ป่วย รวมทั้งมีผู้ประสงค์ร่วมบริจาคดวงตา อวัยวะและร่างกายอีกด้วย นับเป็นส่วนหนึ่งของการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายวิธรัช รามัญ ปลัดจังหวัดปราจีนบุรี, นางรมิดา เรียงเงิน รามัญ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี และ นางสาวจุฑามาศ บัวเผื่อน นายอำเภอศรีมหาโพธิ ร่วมตรวจเยี่ยมกิจกรรมและให้กำลังใจแก่ผู้บริจาคโลหิต ณ โรงแรมทวาราวดี จังหวัดปราจีนบุรี นอกจากการบริจาคโลหิตแล้ว ยังมีการเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการ OTOP ได้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาจำหน่ายภายในงาน สร้างสีสันและรายได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับคนในท้องถิ่น     พร้อมกันนี้ สำนักงานดั๊บเบิ้ล เอ สาขาฉะเชิงเทรา ยังได้ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตจากพนักงานและประชาชนในพื้นที่ โดยมีปริมาณโลหิตรวมกว่า 19,000 ซีซี     ดั๊บเบิ้ล เอ ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตทุก 3 เดือนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลอดปีนี้ ได้ปริมาณโลหิตสะสมรวมกว่า 218,000 ซีซี มอบให้กับศูนย์บริจาคโลหิต สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและเป็นการสำรองโลหิตให้เพียงพอ ด้วยเจตนารมณ์ของดั๊บเบิ้ล เอ ที่มุ่งมั่น “สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน" ภายใต้แนวคิด "Better Paper Better World"

ดั๊บเบิ้ล เอ คว้า “ฉลากลดโลกร้อน” ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ 32 รายการ ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม

ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการรับรอง “ฉลากลดโลกร้อน” (Carbon Footprint Reduction -CFR) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สำหรับผลิตภัณฑ์กระดาษจำนวน 32 รายการ ในปี 2025 และในจำนวนนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากลดโลกร้อนต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประเมินผลลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในการขับเคลื่อนสู่ Net Zero     นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า “สำหรับดั๊บเบิ้ล เอ ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงเป้าหมาย แต่เป็นพันธกิจหลักที่เกิดจากเจตนารมณ์ขององค์กร เราพัฒนาทุกกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างแท้จริง การที่จำนวนผลิตภัณฑ์ได้รับฉลากลดโลกร้อน เพิ่มขึ้นเป็น 32 รายการในปีนี้ นับเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของเรา” ความสำเร็จนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สอดคล้องกับแนวทาง ESG และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน พร้อมร่วมกันขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด "Better Paper, Better World" ที่เชื่อว่าทุกคนมีพลังในการดูแลโลกนี้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เครื่องหมายลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือฉลากลดโลกร้อน คือ ฉลากที่แสดงว่าผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งเป็นการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมตอกย้ำความสำคัญของการดูแลชีวิตและสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันปฐมพยาบาลโลก 2568 

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นผู้แทนมอบผลิตภัณฑ์ Double A Care ทิชชูเปียกสูตรอ่อนโยน เพื่อร่วมสนับสนุนกิจกรรมเนื่องในวันปฐมพยาบาลโลก ประจำปี 2568 "First Aid and Climate Change" ภายใต้หัวข้อ รู้รอดปลอดภัย : ปฐมพยาบาลอย่างไรในภาวะโลกร้อน เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน ในด้านการปฐมพยาบาลในสถานการณ์ที่อาจเกิดจากภาวะโลกร้อน และเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้มอบ Double A Gift Set เป็นรางวัลให้ผู้เข้าประกวด “First Aid Climate Change Innovation” อีกด้วย โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิริพร พุทธรังษี ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย สภากาชาดไทย (คนที่ 1 จากขวา) และนางอัญชนา สัจจวิโส หัวหน้ากลุ่มงานอบรมสุขภาพอนามัย (คนที่ 1 จากซ้าย) เป็นผู้แทนรับมอบในครั้งนี้ ณ ศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย สภากาชาดไทย