Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนคนทำงานใส่ใจสุขภาพกับเวิร์คช็อป บำบัดอาการ ออฟฟิศซินโดรม

ใครว่าทำงานออฟฟิศปลอดภัยไม่มีโรค ด้วยสภาวะตึงเครียดของสังคมในปัจจุบัน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจ ทำให้โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตที่คุกคามคนวัยทำงาน ซึ่งโรคนี้จะเข้ามาคุกคามอย่างเงียบๆ กว่าคนทำงานจะรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ต่อเมื่อกลายเป็นออฟฟิศซินโดรมเรื้อรัง จนอาจถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้

 

        ด้วยเหตุนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จึงจัดเวิร์คช็อป บำบัดอาการ ออฟฟิศซินโดรม ขึ้นที่เมืองหนังสือ ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เพื่อให้ความรู้คนทำงานถึงอันตรายของโรคนี้ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้คนทำงานมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และให้กำลังใจกันและกันให้ห่างไกลจากโรค โดยได้รับเกียรติจากคุณเล็ก ฉัตริษา ศรีสานติวงศ์ อดีตพิธีกรรายการบ้านเลขที่ 5 และผู้เขียนหนังสือออฟฟิศซินโดรม กลเม็ดเด็ด พิชิตโรควัยทำงาน มาเป็นวิทยากร

 

 

สาวออฟฟิศทั้งหลาย ใครนั่งท่านี้โปรดระวัง กระดูกสันหลังจะคด

 

        คุณเล็ก วิทยากรหน้าสวยของเรา กล่าวว่า "คนเรามักจะละเลยสัญญานอันตรายที่ร่างกายส่งออกมา เช่น อาการปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ และใช้ชีวิตรูปแบบเดิมต่อไป โดยไม่ได้สนใจสุขภาพ ซึ่งจริงๆ แล้วโรคนี้อันตรายมาก สามารถทำให้เราเสียประสาทการรับรู้ความรู้สึกได้เลยทีเดียว"

 

 

หนึ่งในคนทำงานที่เริ่มมีอาการออฟฟิศซินโดรม

 

        แต่ก่อนที่จะเข้าใจความเป็นไปของโรค ทุกคนจะต้องเข้าใจถึงลักษณะสรีระร่างกายมนุษย์ก่อน โดยคุณเล็กอธิบายง่ายๆ ว่า "ร่างกายมนุษย์ทุกคนนั้น ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็มีโครงสร้างเหมือนกัน นั่นคือ มีโครงกระดูก หรือจะเปรียบเทียบเป็นเหล็กเส้นในอาคารก็ได้ เป็นเสาหลักรับน้ำหนักทั้งหมดของร่างกาย และมีกล้ามเนื้อ ซึ่งเปรียบได้กับ ปูน หรือคอนกรีต ห่อหุ้มอีกทีหนึ่ง และสองอย่างนี้ก็ช่วยห่อหุ้มระบบประสาทของร่างกายเรา ทั้งนี้ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ทุกคนต่างมีกล้ามเนื้อ, โครงกระดูก และเส้นประสาท ในจำนวนที่เท่ากันและอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน"

 

 

คุณเล็กนำโครงกระดูกขนาดเท่าของจริงมาสาธิต

 

        หลังจากนั้นคุณเล็ก ได้อธิบายโครงสร้างกระดูกด้วยแบบจำลองตามขนาดจริงของมนุษย์ ว่าข้อต่อกระดูกคนเราแบ่งได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือ กระดูกส่วนคอ, ส่วนอก, ส่วนเอว หรือหลังช่วงล่าง, และส่วนสะโพก ซึ่งโรคออฟฟิศซินโดรมนี้ จะเกิดกับกระดูก 2 บริเวณคือ คอและเอว โดยถ้าเราเข้าใจโครงสร้างกระดูกจะทำให้เราสามารถคุยกับแพทย์รู้เรื่องมากยิ่งขึ้น และหาทางรักษาได้ตรงจุด เพราะคุณเล็กเองก็เคยประสบปัญหาคุยกับแพทย์ไม่รู้เรื่องมาก่อน

 

        "เวลาไปพบแพทย์แล้วดูฟิล์มเอ็กซเรย์ จะมีตัวย่อของข้อต่อกระดูก 4 ส่วนนี้ ซึ่งตอนที่ไปพบหมอ ทุกคนจะประสบปัญหาเดียวกันคืองง และนึกภาพไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเรา ดังนั้นการเข้าใจส่วนต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เรารู้ว่า อาการชาตามนิ้วมือนิ้วเท้านั้น เกิดจากกระดูกส่วนคอมีปัญหา ทำให้เราเอ็กซเรย์เฉพาะบริเวณนี้ เป็นต้น" คุณเล็ก ฉัตริษา กล่าว

 

 

ท่าออกกำลังกายข้อมือ กันนิ้วล็อค

 

 

ผู้ร่วมงานต่างร่วมกันกายบริหาร

 

        โรคออฟฟิศซินโดรมจะเกิดกับคนทำงานมาก เนื่องจากคนทำงานจะนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ โดยไม่ได้ลุกไปไหน ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนผิดรูป และรับน้ำหนัก ไม่ถูกจุด เมื่อนั่งผิดท่านานๆ จะทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังแตก และน้ำในหมอนรองจะออกมาทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวด หรือชาตามร่างกาย

 

 

หนึ่งในท่ากายบริหาร ยืดเหยียด เอียง บิด

 

        การรักษาโรคนี้จึงขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเดิน นั่ง ยืน นอน ทุกอย่างล้วนส่งผลกระทบต่อร่างกายทั้งนั้น เพราะโครงกระดูกเป็นส่วนที่รับน้ำหนักร่างกายทั้งหมด ผู้ที่เคยมีอาการ หมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท และเคยเข้ารับการผ่าตัดมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็สามารถกลับมาเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมได้อีกครั้ง ถ้าไม่ได้พักฟื้นเพียงพอและเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่

 

เล็ก ฉัตริษา ได้แนะนำคนทำงานให้ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ดังนี้

 

        - ตั้งเวลาปลุกให้เร็วขึ้น 5 นาที เมื่อตื่นนอนแล้ว ควรยืดตัวบิดขี้เกียจก่อนลุกไปอาบน้ำ เพื่อให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อคลายตัว หลังจากน้ำหนักกดทับมาทั้งคืน

 

        - หลังจากนั้น ก่อนอาบน้ำ ให้ออกกำลังกายเบาๆ สะบัดมือสะบัดเท้า เพื่อป้องกันกล้ามเนื้อไม่ให้หดตัวเกร็งเมื่อเจอน้ำ เพราะถ้ากล้ามเนื้อหดเกร็งบ่อยๆเข้า จะสะสมความเครียด และเป็นตะคริวได้ง่าย การออกกำลังกายท่านี้ สามารถทำได้ง่ายๆ คือ ยืนกางขา ยื่นมือมาข้างหน้า พร้อมสะบัดๆ มือ ซึ่งท่านี้จะสนุกขึ้น ถ้าสะบัดมือไปพร้อมกันกับการบิดสะโพก

 

        - เมื่อร่างกายพร้อมต่อการทำงานวันใหม่แล้ว จิตใจก็ต้องพร้อมด้วย โดยคุณเล็กแนะนำให้ทุกคนคิดว่า ‘คอยดูสิ วันนี้ฉันจะทำให้ได้’ เมื่อไปถึงที่ทำงาน เพื่อสร้างความมั่นใจและ ทำงานวันใหม่ได้สำเร็จ เป็นไปตามแผนที่วางไว้

 

        - เมื่อทำงาน ก็ห้ามนั่งทำงานเกิน 1 ชม. ถ้าครบเวลา ให้ลุกขึ้นยืดเหยียดเอียงบิด ซึ่งทำได้ง่ายๆ เช่น เอามือซ้ายจับด้านหลังพนักเก้าอี้ มือขวาเอื้อมไปจับราววางแขนด้านซ้าย ช้าๆ และทำสลับกัน เป็นต้น หรือท่ายืนตัวตรง
ยื่นแขนขึ้นไปพนมมือด้านบนศีรษะ ให้แขนตึง และดึงแขนมาหลังใบหู เพื่อให้เหยียดตึงมากขึ้น ซึ่งท่านี้จะช่วยจัดกระดูกสันหลังให้ตรง หลังจากนั่งคดทำงานมาเป็นเวลานาน

 

        - นอกจากนี้ ควรเอาหมอนรองหลัง และก้นกบไว้ เพื่อรองรับน้ำหนัก การนั่งท่าเดิมนานๆ จะทำให้เกิดพังผืด และส่งผลให้เคลื่อนไหวผิดปกติ

 

        - อย่านั่งทำงานคลิกแต่เมาส์ โดยไม่ได้บริหารนิ้วและข้อมือ เพราะถ้าเกิดอาการนิ้วล็อคขึ้นมาแล้วนั้น ไม่สามารถบำบัดได้ นอกจากเข้ารับการผ่าตัด

 

        - อย่าเครียด และควรสังเกตอาการปวดหัวของตนเอง ว่าปวดในลักษณะไหน เพื่อรักษาได้ทันท่วงที

 

        - ควรจัดบรรยากาศออฟฟิศให้เหมาะสม เพราะการมองเห็นมีผลต่อความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นความสว่าง, อากาศ, และควรมีต้นไม้จริงประดับ ให้ความสดชื่น มีชีวิตชีวา พร้อมที่จะลุยกับงานต่อไป

 

        การทำงานทุกวันนอกจากจะเป็นการสะสมความเครียดในตนเองแล้ว ยังมีความเครียดจากสิ่งเร้าที่ก่อตัวขึ้นจากปัจจัยต่างๆในการดำเนินชีวิต ทำให้คนวัยทำงานเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมกันง่ายขึ้น เราจึงควรปรับเปลี่ยนตนเองใหม่ รู้จักยืดเส้นยืดสายกายบริหาร เพื่อความเป็นสุขของตัวเราเอง แล้วการทำงานจะมีความสุขมากขึ้น ถ้าร่างกายสบาย จิตใจก็มีความสุข

 

สำหรับผู้ที่สนใจห่วงใยสุขภาพ ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทยบนถนนสาทร 12 ก็มีหนังสือแนวสุขภาพมากมายให้เลือกซื้อเลือกอ่านกันได้ หรือคลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.doubleabooktower.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบกระดาษมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท สนับสนุนการพิมพ์หนังสือสวดพระปริตรมหากุศล

ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ประธานกรรมการบริหารบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ด้วยการมอบกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มูลค่า 2.6 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อสนับสนุนการพิมพ์หนังสือที่ระลึกงานสวดพระปริตรมหากุศลเฉลิมพระเกียรติถวายพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ที่จะมีการสวดพร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2554 โดยมี สมพร เทพสิทธา รองประธานการจัดงาน (คนที่ 3 จากขวา) เฉิดโฉม จันทราทิพย์ ประธานฝ่ายจัดทำหนังสือที่ระลึก (คนที่ 2 จากขวา) กรรณภรณ์ วงศ์ปิยะกุล และอุไรวรรณ รังคะอุไร ผู้ช่วยเลขานุการการจัดงาน (คนที่ 5 และ1 จากขวา) เป็นผู้รับมอบ

ดั๊บเบิ้ล เอ รับโล่ Earth Hour 2011

ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบโล่ให้กับ นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษแก้โลกร้อน ในฐานะผู้สนับสนุนกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ในงาน Earth Hour 2011 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมีมิสเตอร์ ราเมซ คัดคา ผู้แทน WWF ภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขง และนายตรีรัช ภูคชสารศีล ผู้อำนวยการฝ่ายงานอนุรักษ์ WWF ประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติ ซึ่งกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมงในปีนี้ ประเทศไทยสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1,474 ตัน คิดเป็นค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ 7,657,057 ล้านบาท ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้ประกาศเจตนารมย์จะทำกิจกรรมลดโลกร้อนต่อเนื่องตามแนวทางในกิจกรรม Earth Hour Plus หรือโครงการมากกว่าปิดไฟให้โลกพัก

ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ร่วมเป็นภาคีผลักดันกทม.เป็นเมืองหนังสือโลก

เมื่อเร็วๆ นี้ ดั๊บเบิ้ล เอ บุ๊ค ทาวเวอร์ เมืองหนังสือของคนไทย ร่วมเป็นหนึ่งในภาคีสนับสนุนผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งการอ่านสู่เมืองหนังสือโลกในปี พ.ศ.2556 (World Book Capital 2013) ตามนโยบายของ UNESCO โดยมีนายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ พร้อมกับแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของโครงการ คือ "น้องเดียว" ด.ช.พัทธดนย์ เกลี้ยงจันทร์ ,"น้องปอเปี๊ยะ" น.ส.แพรกานต์ นิรันดร เจ้าของบทประพันธ์ไตรภาค ชุด "จักรภพพันธุ์มหัศจรรย์" และมาสคอต คือ "ช้างน้อยก้านกล้วย" เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนไทยรักการอ่าน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เตรียมโชว์กระดาษจากคันนาในงาน BOI Fair 2011

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมลงนามจองพื้นที่แสดงนิทรรศการในงาน BOI Fair และร่วมแถลงข่าวเตรียมจัดนิทรรศการอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้คอนเซ็ปต์โลกสดใส ไทยยั่งยืน โชว์ผลงาน "กระดาษจากคันนา" ร่วมแก้ปัญหาโลกร้อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับการลงทุนในประเทศไทย โดยมี นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ให้เกียรติเป็นสักขีพยานในการลงนามร่วมกับเอกชนชั้นนำอีกหลายแห่ง