Follow us

แอ๊ดวานซ์ อะโกร เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "ดั๊บเบิ้ล เอ 1991" ฉลองแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอก้าวสู่ทศวรรษที่ 2

          แอ๊ดวานซ์ อะโกร ผู้ผลิตเยื่อและกระดาษครบวงจรรายใหญ่ของไทย และผู้นำการสร้างแบรนด์กระดาษในตลาดโลก ก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ของการสร้างแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทอย่างเป็นทางการจาก บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ก้าวสู่การเป็น "Paper of the world"

          นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มสร้างตราสินค้า "ดั๊บเบิ้ล เอ" มาตั้งแต่ปี 2543 จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง สร้างรายได้จากการส่งออกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2543-2552) นับแสนล้านบาท และสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรผู้ปลูกต้นกระดาษบนคันนาหรือตามพื้นที่ว่างทางการเกษตรที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์กว่า 1.5 ล้านราย และเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการแก้ปัญหาโลกร้อน โดยการบริโภคทุก 1 รีม จะช่วยให้เกิดกระบวนการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศได้ถึง 3 กิโลกรัม จนปัจจุบันกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มีจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลก มากกว่า 100 ประเทศ ครอบคลุมทั้งเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง

 

          การสร้างแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ในตลาดโลก ทำให้ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตราสินค้าของกระดาษถ่ายเอกสารที่มีการจดจำได้มากที่สุดในโลก มีผู้บริโภคมากที่สุดในโลก และมีการผลิตภายใต้แบรนด์เดียวกันมากที่สุดในโลกถึง 200 ล้านรีมต่อปี เพื่อรองรับความต้องการบริโภคกระดาษคุณภาพสูงทั่วโลก ซึ่งอัตราความต้องการการบริโภคกระดาษคุณภาพสูงในตลาดโลกนั้นยังมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอีกมาก และทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลประกอบการกำไรสุทธิต่อเนื่องมาตลอด 10 ปี รวมทั้งสามารถฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2552 ด้วยกำไรสุทธิประมาณ 2,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

          ดังนั้น เพื่อการก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ของการสร้างแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ และขยายผลด้านชื่อเสียงจากตราสินค้า

"ดั๊บเบิ้ล เอ" และตอกย้ำมูลค่าของแบรนด์ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้สร้างขึ้นทั่วโลก และสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก รวมทั้งสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค คู่ค้า สถาบันการเงิน นักลงทุน และบุคคลทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักบริษัทในนามดั๊บเบิ้ล เอ บริษัทจึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม "บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน)" เป็น "บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน)" เพื่อให้มีตัวอักษรคำว่า "ดั๊บเบิ้ล เอ" และ

"ปีก่อตั้ง" ปรากฏอยู่ในชื่อ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2553 นี้เป็นต้นไป

 

          นายชาญวิทย์ กล่าวต่อไปว่า วิสัยทัศน์สำหรับการเติบโตในก้าวต่อไปของดั๊บเบิ้ล เอ เราต้องการเป็น "กระดาษของชาวโลก : Paper of the world" คือ เป็นแบรนด์กระดาษคุณภาพสูงที่รองรับความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคทั่วโลก โดยดั๊บเบิ้ล เอ จะให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งกระดาษคุณภาพของผู้ใช้ทั่วโลก โดยขณะนี้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ตั้งทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

          นอกจากความเป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภคในด้านคุณภาพแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีนโยบายที่จะเติบโตสู่ตลาดทั่ว-โลก ด้วยการเป็นกระดาษของชาวโลกที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยดั๊บเบิ้ล เอ จะยึดหลักการเป็นกระดาษที่ผลิตจากไม้ปลูก หรือ Paper from Farmed Trees อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ที่เกษตรกรไม่ได้ใช้ประโยชน์ เช่นพื้นที่บนคันนา ให้เกิดเป็นรายได้เสริมสำหรับเกษตรกรที่ร่วมโครงการ และมีแผนงานที่จะเปลี่ยน

ดีไซน์ของกระดาษห่อและกล่องบรรจุกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่ไปจำหน่ายทั่วโลก ให้สอดรับกับคอนเซ็ปท์ Paper from Farmed Trees มากยิ่งขึ้น

 

          ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดั๊บเบิ้ล เอ มีการส่งเสริมให้ปลูกต้นกระดาษไปแล้วทั้งสิ้น 940 ล้านต้น  โดยมีเกษตรกรในประเทศไทยร่วมปลูกต้นกระดาษบนคันนาเพื่อเป็นรายได้เสริมแล้วกว่า 1.5 ล้านราย และมีเกษตรกรในหลายประเทศที่สนใจเข้าร่วม เช่น กัมพูชา เวียดนาม บังคลาเทศ พม่า ลาว เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ มั่นใจได้ว่า กระดาษที่พวกเขาบริโภคทั้งในปัจจุบันและอนาคต จะเป็นกระดาษที่ทำให้เขาคือ ฮีโร่ตัวจริงที่ร่วมแก้ปัญหาโลกร้อน

 

          พัฒนาการของดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มจากปี 2525 ซึ่งถือเป็นยุคเริ่มต้น ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มพัฒนาธุรกิจตั้งแต่รากฐาน โดยการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบจนได้สายพันธุ์ "ต้นกระดาษ" ที่มีเนื้อเยื่อคุณภาพและเติบโตดี ทำให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้เสริมจากพื้นที่ที่ไม่เคยใช้ประโยชน์ ปี 2534 ยุคการก่อตั้งบริษัทและโรงงาน ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เปลี่ยนประเทศไทยจากผู้นำเข้า เป็นผู้ส่งออกกระดาษสุทธิ และมีรายได้จากการส่งออกกระดาษนับหมื่นล้านบาทต่อปี 
 

          ปี 2543 เป็นยุคแห่งแบรนด์ ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เป็นผู้นำอุตสาหกรรมกระดาษในการก้าวข้ามจากสินค้า Commodity สู่การเป็น Consumer Product ด้วยความสำเร็จจากการสร้างแบรนด์ในหลายประเทศทั่วโลก และใน

ปี 2553 นี้จะเป็นจุดเริ่มของยุคการเป็น Paper of The world ของดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เชื่อมั่นว่าความได้เปรียบ

ผู้ผลิตทั่วโลก ทั้งในเรื่องวัตถุดิบ และพลังของแบรนด์ จะทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ ก้าวสู่ยุคใหม่ "Paper of the world" ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

          นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีแผนที่จะปรับโครงสร้างการระดมทุนของกิจการ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนแหล่งเงิน-ทุนระยะยาวจากต่างประเทศ เป็นการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ในประเทศ เพื่อบริหารต้นทุนเงินทุนของกิจการ ซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมเร็วๆ นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์

Double A ร่วมสนับสนุนงาน World Expo 2020 Dubai ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสู่สายตาทั่วโลก

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกิจกรรม “Thailand Pavilion Launch & Networking Reception” ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) งาน World Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 มหกรรมงานระดับโลก ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 -31 มีนาคม 2565 ณ เมืองดูไบ เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริม และสร้างโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยผ่านการลงทุน การค้า สู่สายตาประชาคมโลก โดยมี นายวราวุธ ภู่อภิญญา (คนกลาง) เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้เกียรติเป็นประธานในกิจกรรม ณ โรงแรมดุสิตธานี ดูไบ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัว “กระดาษคราฟท์” พร้อมจำหน่าย รองรับตลาดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระดาษคราฟท์” เพื่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ กำลังการผลิต 250,000 ตันต่อปี พร้อมทำการตลาดและจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 3,000 ล้านบาทต่อปี นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดเผยว่า ความต้องการกระดาษคราฟท์ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกมีประมาณ 164 ล้านตันต่อปี และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเฉลี่ยประมาณปีละ 2.5 % โดยตลาดในแถบเอเชียแปซิฟิค ถือเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคกระดาษคราฟท์มากที่สุดในโลก หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และเฉพาะตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคที่ไม่รวมประเทศจีน ก็มีความต้องการมากถึง 30 ล้านตันต่อปี และมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 4 % ต่อปี ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM) สำหรับการทำตลาดกระดาษคราฟท์นั้น ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจากประเทศในแถบเอเชียก่อน โดยอาศัยข้อได้เปรียบจากการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มีเครือข่ายการตลาดทั่วโลก นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงงานกล่องกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ด้วย เพื่อทดแทนการใช้วัตถุดิบจากภายนอก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับดั๊บเบิ้ล เอ ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท และช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดั๊บเบิ้ล เอ มากขึ้น เนื่องจากตลาดกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียดของผลิตภัณฑ์กระดาษคราฟท์ สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้ที่โทร.085 835 3794 (สำหรับลูกค้าในประเทศ) และโทร.085 835 4098 (สำหรับลูกค้าต่างประเทศ)

ดั๊บเบิ้ล เอ สร้างปรากฏการณ์สุดเจ๋งใน MV วง OK GO ตอกย้ำกระดาษคุณภาพที่ผู้ใช้ทั่วโลกไว้วางใจ

ปรากฏการณ์ใหม่ระดับโลกเมื่อดั๊บเบิ้ล เอจับมือกับศิลปินวง OK GO วงดนตรีสุดครีเอท แนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก จากสหรัฐอเมริกา ที่มีผลงานเพลงและมิวสิค วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางสร้างเซอร์ไพร์สให้กับแฟนเพลงทั่วโลกอีกครั้ง ในมิวสิควิดีโอเพลง Obsession ด้วยเทคนิค Paper Mapping เป็นครั้งแรกของโลก โชว์คุณภาพดั๊บเบิ้ล เอ ที่ส่งออกไปแล้วกว่า 130 ประเทศ โดยศิลปิน OK GO ได้สัมผัสถึงความเรียบลื่นและคุณสมบัติเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอที่ สามารถพรินต์ออกมาโดยไร้อุปสรรคใดๆ จนเกิดแรงบันดาลใจ“OBSESSION for Smoothness” ในการนำมาสร้างสรรค์ฉากอลังการที่น่าตื่นตาตื่นใจในมิวสิควิดีโอชุดนี้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เห็นถึงความเป็นสากลของดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของวง OK GO ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ๆ สื่อสารภาพลักษณ์ ที่เฟรชขึ้น สนุกขึ้น แต่ยังคงหนักแน่นในเรื่องคุณภาพสินค้าที่ทุกคนไว้วางใจ

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบถุงใส่ยารักษ์โลกให้โรงพยาบาลกบินทร์บุรี

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบถุงใส่ยาจากห่อกระดาษในโครงการ “กระดาษแปลงร่าง ถุงยารักษ์โลก” จำนวน 2,420 ใบ ให้กับโรงพยาบาลกบินทร์บุรี โดยมี นายแพทย์ธวัช เจียมรัตนจรัส รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ เป็นผู้แทนรับมอบ สำหรับโครงการนี้ ได้เปิดรับเปลือกห่อที่สะอาดเรียบร้อยจากผู้ใช้กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ เพื่อส่งต่อให้ผู้พิการ ผู้สูงอายุในชุมชนพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ได้มีรายได้เสริมจากการพับถุงใส่ยา และยังเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยทดแทนการใช้ถุงพลาสติกใหม่ใส่ยาให้คนไข้ ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ ได้ดำเนินโครงการมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีพ.ศ.2561 สอดคล้องกับแนวทาง ESG ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

โตอย่างต่อเนื่อง! ดั๊บเบิ้ล เอ เผยรายได้ปี 2566 พุ่งสูงแตะ 23,642 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 84%

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการปี 2566 มีรายได้รวม 23,642 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 786 ล้านบาท หรือคิดเป็น 84% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ดั๊บเบิ้ล เอ มีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ อันเป็นผลจากกลยุทธ์ทางการตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ร่วมกับการมีฐานลูกค้าที่มั่นคงใน 145 ประเทศทั่วโลก และการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถคงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมกระดาษคุณภาพในอันดับต้นๆ ของโลก นอกจากนี้ในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ ที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการขยายตลาดเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคที่คนให้ความใส่ใจกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาทิ “Double A Care เพียว แอนด์ พรีเมียม ทิชชู” “กระเป๋าอัพไซคลิ่ง (Upcycling) จากขวดพลาสติก” และ “ดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษรังผึ้งกันกระแทกรักษ์โลก”รวมถึงสินค้า ดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่ ในกลุ่มไลฟ์สไตล์ และคอลเลคชั่นพิเศษต้อนรับปีมังกร ส่วนด้านสิ่งแวดล้อม ดั๊บเบิ้ล เอ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญและยึดมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการรับรองจากองค์กรระหว่างประเทศ PEFC (The Programme for the Endorsement of Forest Certification) ในด้านมาตรฐานของกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ป่าปลูกถึงลูกค้า (PEFC CoC) เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ “ดั๊บเบิ้ล เอ” มาจากไม้ปลูกและมีการบริหารจัดการกระบวนการผลิตด้วยความรับผิดชอบ พร้อมสร้างคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้เดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2583 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2593 อีกด้วย สำหรับปี 2567 นี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในหลายประเทศ โดยมุ่งเน้นไปที่ออสเตรเลียและอินเดีย พร้อมยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ เพื่อขยายการยอมรับในผลิตภัณฑ์ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ดั๊บเบิ้ล เอ” ให้เพิ่มมากขึ้นในตลาดโลก โดยมีความเชื่อมั่น ไม่ว่าจะในเรื่องกลยุทธ์ที่ชัดเจน ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงความพร้อมในการปรับตัวที่จะทำให้ในปีนี้ บริษัทฯ สามารถทำกำไรให้เติบโตขึ้นไปได้อีกไม่น้อยกว่า 30%

ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนน้องรักการอ่าน ครั้งที่ 7

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอศรีมหาโพธิ จัดกิจกรรม “ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนน้อง รักการอ่าน ครั้งที่ 7” เพื่อส่งเสริมการศึกษา พัฒนาเยาวชนไทย และเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน ให้น้องๆระดับชั้นประถมศึกษาโรงเรียนวัดอรัญไพรศรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีฐานกิจกรรมสนุกกับคำศัพท์ ปริศนาคำทาย ฟังนิทานตอบคำถาม จับผิดภาพ จับฉลากคำแต่งเรื่องสั้น ที่ช่วยฝึกการคิดวิเคราะห์ ทักษะการเขียนคำภาษาไทย ทักษะการอ่าน การจำ และการรับ-ส่งสารอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมระบายสี และการพับใบเตย ที่ทำให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินไปพร้อมกับการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ฝึกสมาธิ และฝึกการจัดการเวลาได้ และปิดท้ายกิจกรรมด้วยการค้นคว้าหาความรู้จากรถห้องสมุดเคลื่อนที่ ซึ่งมีหนังสือมากมายให้เด็กๆได้เลือกอ่านให้ทั้งความรู้และสร้างเสริมจินตนาการ นับเป็นกิจกรรมที่ดั๊บเบิ้ล เอ จัดมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 3 โดยให้ความสำคัญด้านส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเยาวชน

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบหน้ากากอนามัยฯ เพื่อการแพทย์และสาธารณสุข ให้มูลนิธิพอ.สว.

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย Double A Care ได้แก่ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์, เจลแอลกอฮอล์, ถุงมือ TPE ,หมวกคลุมผมตัวหนอนอนามัย เกรดการแพทย์(Bouffant Cap) เป็นต้น ให้กับมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี-พอ.สว. ภายใต้โครงการ "Double A ส่งใจ มอบความห่วงใย ทั่วไทย" ซึ่งเป็นโครงการที่ดั๊บเบิ้ล เอ มอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ให้บุคคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย กลุ่มเปราะบางและประชาชนที่ขาดแคลนทั่วประเทศ รวมกว่า 6 ล้านชิ้น เป็นมูลค่ารวม 15 ล้านบาท โดยมี นายแพทย์พิษณุ มณีโชติ รองเลขาธิการมูลนิธิพอ.สว. และนางชุติรัตน์ ลางคุณเสน หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานมูลนิธิพอ.สว.เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์หน่วยแพทย์และสาธารณสุขต่อไป

ดั๊บเบิ้ล เอ ชวนคนไทยปิดไฟพร้อมกัน 1 ชั่วโมง ลดโลกร้อน วันเสาร์ที่ 23 มี.ค.นี้

ดั๊บเบิ้ล เอ เชิญชวนคนไทยปิดไฟพร้อมกันทั่วโลก กับกิจกรรม "Earth Hour 2024" ในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 เวลา 20.30 - 21.30 น. เพื่อแสดงพลังรักษ์โลกและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างประหยัดและรู้คุณค่า รวมทั้งช่วยลดปัญหาโลกร้อนอีกด้วย เช่น ปิดดวงไฟที่ไม่จำเป็น ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อเลิกใช้งาน นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้รณรงค์ให้พนักงานและชุมชนโดยรอบ ร่วมปิดไฟพร้อมกันในวันดังกล่าว รวมถึงแจกสติ๊กเกอร์ประหยัดไฟ เพื่อสร้างจิตสำนึกรักษ์พลังงาน รักษ์โลก ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตลอดกระบวนการผลิต พร้อมทั้งประกาศเป้าหมายสู่องค์กรลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปีค.ศ.2050 รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้ ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลที่ดี