Follow us

ดั๊บเบิ้ล เอ แบรนด์กระดาษพรีเมียม10 ปี กับการสร้างแบรนด์ในตลาดโลก

       การเปิดตัวสินค้าในระดับโลกของดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มขึ้นจากการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2000 ซึ่ง-ถือเป็นผลิตภัณฑ์กระดาษแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่มีการโฆษณาและการทำตลาดอย่างจริงจัง ดั๊บเบิ้ล เอ ประสบความสำเร็จในไทยอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 3 ปี ดั๊บเบิ้ล เอสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย ด้วยอัตราการรับรู้แบรนด์ถึง 80% และแบรนด์รอยัลตี้สูงถึง 90% และ 10 ปีให้หลัง หลังจากที่ดั๊บเบิ้ล เอ รุกและขยายการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ ก็ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้-

วางใจจากลูกค้าทั่วโลก

 

ที่มาความสำเร็จ คือ ขาย “คุณภาพ”

 

          ดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มต้นการสร้างแบรนด์กับผู้บริโภคในตลาดโลก ด้วยการนำโมเดลความสำเร็จจากประเทศไทยไปใช้ในต่างประเทศ เริ่มจากการเจาะตลาดด้วยการขาย “คุณภาพ” เพราะดั๊บเบิ้ล เอ เชื่อว่า สินค้าที่ดี จึงจะอยู่ในตลาดได้อย่างยืนยาว เพราะต่อให้พูดดังแค่ไหน ถ้าสินค้าไม่ดีก็เท่ากับเป็นการทำตลาดแบบฆ่าตัวตาย ดั๊บเบิ้ล เอ เลือกที่จะขายคุณภาพ ที่เป็นเอกลักษณ์เด่น 7 ประการ ซึ่งผ่านการวิจัยทางการตลาดทั้งในประเทศไทยและในหลายๆ ประเทศแล้วว่า คือความต้องการหลักของผู้บริโภค

 

การเปิดตัวครั้งแรกในตลาดโลก

 

          ดั๊บเบิ้ล เอ เลือกเปิดตัวด้วยเอกลักษณ์คุณภาพแรก คือ “คมชัดเหมือนต้นฉบับ” ซึ่งในประเทศไทย เราจะเห็นโฆษณาชุด Speech หรือประธานกล่าวแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวที่อ่านผิดอ่านถูก เพราะงานถ่ายเอกสารไม่ได้คุณภาพ  วลีเด็ด คือ บัดนี้เจ้าสาวก็ได้ ท้องแล้ว แต่จริง ๆ คือได้ทองแล้ว ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ก็สื่อสารใน Theme เดียวกัน แต่มีมุขเด็ด ๆ ต่างกันไป เช่น โฆษณาชุด Will ที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นการอ่านพินัยกรรม ที่ทนายอ่านผิดอ่าน-ถูก มอบมรดกชิ้นใหญ่ให้คนรับใช้ซะงั้น เรียกได้ว่า การเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2000 และออกตัวสู่ตลาดโลกในปี 2001 ดั๊บเบิ้ล เอ ทำให้วงการตลาด ซึ่งเคยเป็นสินค้าอุตสาหกรรมกลายเป็นสินค้าคอนซูเมอร์ และทำ-ให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของการใช้กระดาษคุณภาพ

 

“กระดาษไม่ติด ชีวิตไม่เครียด”

 

          Theme ถัดมาที่ดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มจับเป็น Theme หลักในการสื่อสารมาอย่างยาวนานและใช้เป็น Theme หลักในหลายประเทศ คือ No Jam No Stress ซึ่งดั๊บเบิ้ล เอ เริ่มขยับจากการขายคุณภาพไปสู่ Emotion แล้ว 

 

          ก่อนที่ดั๊บเบิ้ล เอ จะนำเสนอสินค้าออกสู่ตลาด ปัญหาเรื่องกระดาษติดเครื่องถ่ายเอกสารเคยเป็นปัญหาใหญ่และสร้างความเครียดให้กับสาว ๆ ออฟฟิศอย่างมากทีเดียว แต่ปัจจุบันนี้ ปัญหากระดาษติดเครื่องกลายเป็นเรื่องในอดีตไปเสียแล้ว จุดนี้เอง ซึ่งเป็นข้อเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ ครองใจผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ปี เพราะนอกจากจะทำให้ผู้บริโภคได้งานถ่ายเอกสารคุณภาพและคุ้มค่าโดยไม่เกิด Waste จากการถ่ายเอกสารติดเครื่องแล้ว ผู้ใช้งานยังไม่ต้องอารมณ์เสียจากปัญหากระดาษติดเครื่องอีกด้วย

 

“ไอเดีย No Jam No Stress เข้าถึงความต้องการภายในที่แท้จริงของผู้บริโภค ที่เขาต้องประสบปัญหาความเครียดและความไม่สะดวกจากปัญหากระดาษติดเครื่องถ่ายเอกสาร การสื่อสารผ่านอารมณ์ขำขำกลายเป็นบุคคลิกของแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ใช้ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งแต่ละครั้งก็ได้ผลดีในแง่การสร้างการจดจำและแบรนด์อะแวเนส ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับความไว้วางใจจากพนักงานออฟฟิศในเอเชียเป็นอย่างมาก และเริ่มเป็นที่รู้จักของคนในแถบยุโรปและตะวันออกกลาง ลูกค้ามักสะท้อนกลับมาให้เราเห็นว่า เราเป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์ และนำรอยยิ้มมาสู่คนทำงาน ทำให้คนทำงานคลายเครียด” นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าว

 

Two in one : ได้ทั้งคุณภาพ ได้ทั้งช่วยสิ่งแวดล้อม

 

          ในตลาดโลก ดั๊บเบิ้ล เอ เลือกการสื่อสารด้านคุณภาพผ่านช่องทางงานโฆษณาเป็นหลัก แต่ในด้านการประชาสัมพันธ์ ดั๊บเบิ้ล เอ เลือกที่จะสื่อสารให้ทั่วโลกได้รู้จักดั๊บเบิ้ล เอ ในฐานะกระดาษที่ผลิตจากต้นกระดาษที่เกษตรกรปลูกบนคันนา หรือคอนเซ็ปต์ที่เราสื่อสารออกไปทั่วโลกว่า “Paper from Farmed Tree” ซึ่งจุดแข็งของดั๊บเบิ้ล- เอ ในประเด็นนี้นับเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่คู่แข่งทั่วโลกยังไม่มีใครตามทัน

 

          นายชาญวิทย์ กล่าวเสริมว่า “ดั๊บเบิ้ล เอ เชิญสื่อมวลชนจากหลาย ๆ ประเทศให้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อรู้จักกับที่มาของดั๊บเบิ้ล เอ ได้พูดคุยกับเกษตรกรไทย เห็นต้นกระดาษจริงที่เกษตรกรไทยปลูกบนคันนา เขาชื่นชมเรามาก ว่าเราคิดไว้อย่างรอบคอบมาก เราทำให้ที่ดินบนคันนาที่เคยทิ้งว่างเปล่า กลายเป็นพื้นที่ช่วยแก้โลกร้อน ช่วยเพิ่มคุณค่าทางเศรษฐกิจให้ชาวนา น้ำใช้เราก็ยังใช้วิธีขุดอ่างน้ำและเก็บกักน้ำฝนน้ำหลากไว้ใช้เอง ใช้แล้วก็ยังไม่ทิ้ง ยังนำกลับไปใช้หมุนเวียนอีก เศษไม้ เปลือกไม้เราก็ไม่ทิ้ง เอามาผลิตไฟฟ้าอีก เราจึงเป็นทางเลือกของผู้บริโภคแบบ Two in one คือ ได้ทั้งคุณภาพ และช่วยสิ่งแวดล้อมด้วย”

 

จำหน่าย 120 ประเทศทั่วโลก

 

          ปัจจุบันถือได้ว่า ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นแบรนด์กระดาษแบรนด์เดียวที่ทำตลาดและสร้างแบรนด์อย่างจริงจังในระดับโลก ขณะนี้ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถส่งออกไปจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลกแล้วกว่า 120 ประเทศ ครอบคลุมทั้งเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป อเมริกา อัฟริกาและตะวันออกกลาง รวมทั้งเพิ่งประกาศความสำเร็จในการเปิดประตูสู่ตลาดจีนครบรอบ 5 ปีด้วยยอดเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 400 % ในการครบรอบ 5 ปี และยึดพื้นที่ ครองความเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคแล้วในหลายประเทศทั่วโลก และสามารถสร้างแบรนด์รอยัลตี้กับผลิตภัณฑ์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ทั่วโลกสูงถึง 79-90%  ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าภูมิใจสำหรับคนไทย ที่เป็นเจ้าของแบรนด์คุณภาพของโลก

 

ก้าวต่อไปของดั๊บเบิ้ล เอ

 

          ในปี 2010 ดั๊บเบิ้ล เอ วางแผนงานจะรุกการสร้างและตอกย้ำแบรนด์กระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ใน 14 ประเทศ ทั้งในไทย เกาหลี จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บังคลาเทศ อิหร่าน ปากีสถาน ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส ด้วยแผนการสื่อสารการตลาดเต็มรูปแบบ เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายแบรนด์ชั้นนำของโลก

 

          เราคนไทยทุกคน คงต้องคอยเป็นกำลังใจเชียร์ให้สินค้ากระดาษของไทย อย่างกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและช่วยสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยปีละกว่า 5,000 ล้านบาท และสร้างรายได้จากการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และยังช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 2.4 ล้านตันรายนี้ ให้ก้าวและเติบโตต่อไปในระดับโลกในฐานะสินค้าของไทยอย่างที่ตั้งใจไว้

ข่าวประชาสัมพันธ์

แคมเปญ 1Dream1Tree

ดั๊บเบิ้ล เอ มีการดำเนินธุรกิจภายใต้โมเดล “กระดาษจากคันนา” เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการใช้พื้นที่ว่างเปล่าบนคันนา ซึ่งช่วยให้ชาวนามีรายได้เสริมและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้นได้ส่งผลกระทบที่หลายๆประเทศต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วม หมอกควันจากไฟป่า ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากฝีมือมนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ดั๊บเบิ้ลเอ จึงอยากรณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงพลังของผู้บริโภคที่จะดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อม สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำลายป่า ไม่ตัดไม้จากป่า อันเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาภัยธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “Double A One Dream One Tree” เพื่อปลุกกระแสรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ประชาชนทุกคนตระหนักว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งความห่วงใย มอบหน้ากากอนามัยฯ สู่ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา

ดั๊บเบิ้ล เอ ห่วงใยสุขอนามัยของทหารชายแดนไทย-กัมพูชา มอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ Double A Care รุ่น 3D V-SHAPE Smart FIT สีดำ จำนวน 20,000 ชิ้น ให้แก่ มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ โดยหน้ากากอนามัยฯ นี้สามารถกรองเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ 99.9% ใส่สบาย หายใจสะดวก เพื่อสุขอนามัยที่ดี พร้อมส่งกำลังใจให้ทหาร และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชนคนไทยทุกคน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้มอบผลิตภัณฑ์ Double A Care ที่มีความต้องการ อาทิ เพียว & พรีเมียม ทิชชู, ทิชชูเปียก Pure Water และ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ ให้แก่ศูนย์อพยพต่างๆ รวมถึงมอบอุปกรณ์เครื่องเขียน ให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อเด็กที่ได้รับผลกระทบ ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นพลังบวกให้คนไทยก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งต่อพลังบวก “Double A Fit for Kids ครั้งที่ 3” มอบอุปกรณ์การเรียน 3,000 ชุด ให้เด็กๆที่ขาดแคลน

    นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นผู้แทนมอบชุดอุปกรณ์การเรียน จำนวน 3,000 ชุด ภายใต้โครงการ “Double A Fit for Kids ครั้งที่ 3” ผ่านมูลนิธิซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนฯ โดยมี ดร.สุรีวัลย์ ลิ้มพิพัฒนกุลที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และแผนงาน มูลนิธิซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ให้เกียรติเป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อนำไปจัดสรรและกระจายยังโรงเรียนต่างๆที่ขาดแคลน สำหรับโครงการ “Double A Fit for Kids ครั้งที่ 3” จัดขึ้น โดยมุ่งหวังสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนหันมาใส่ใจสุขภาพพร้อมสร้างสรรค์สังคมที่ดี ด้วยการจัดกิจกรรมเดิน–วิ่งสะสมจำนวนก้าวร่วมกันแบบ Virtual พิชิตภารกิจเป้าหมาย “9 วัน 9 ล้านก้าว” เพื่อร่วมส่งมอบชุดอุปกรณ์เครื่องเขียน อาทิ สมุดนักเรียน สมุดรายงาน ปากกา เป็นต้น พร้อมกระเป๋าสะพาย ให้กับน้องๆ ได้เข้าถึงอุปกรณ์การเรียนที่เพียงพอและมีคุณภาพ กิจกรรมนี้ ไม่เพียงส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมพลังน้ำใจจากผู้ร่วมกิจกรรม ที่มีเป้าหมายสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป

ดั๊บเบิ้ล เอ มอบขวดพลาสติกอัพไซเคิล โครงการ “แยกเพื่อให้...พี่ไม้กวาด” ของสำนักสิ่งแวดล้อม กทม.

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ เป็นตัวแทนมอบขวดน้ำพลาสติกใส จำนวน 27 กิโลกรัม จากกิจกรรมที่ดั๊บเบิ้ล เอ รณรงค์ให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะ ซึ่งสามารถนำมาอัพไซเคิล (upcycle) ให้เกิดประโยชน์ ผ่านโครงการมือวิเศษ กรุงเทพ “แยกเพื่อให้...พี่ไม้กวาด” เพื่อนำไปผลิตเป็นเสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการรักษาความสะอาดของกรุงเทพฯ เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน โดยมี นางสาวลลิดา กังวาลชิรธาดา ผู้อำนวยการส่วนบริการจัดการมูลฝอย สำนักงานยุทธศาสตร์จัดการมูลฝอย สำนักสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รับมอบ ณ จุดรับขยะแยกประเภท (Drop off Point) ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกแล้ว ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของดั๊บเบิ้ล เอ ในการส่งเสริมแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) รวมถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ยั่งยืน

ดั๊บเบิ้ล เอ ต้อนรับ กทพ. โชว์ศักยภาพการผลิตมาตรฐานคุณภาพ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน

ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดบ้านต้อนรับคณะทำงาน ผู้ตรวจประเมิน และเจ้าหน้าที่ระบบบริหารงานคุณภาพด้านบริการ ISO 9001: 2015 จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นำโดย คุณศิริมา ชวนอยู่ รองผู้ว่าการ(บริหาร)กทพ.พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมชมโรงงานดั๊บเบิ้ล เอ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเข้าใจถึงกระบวนการผลิตเยื่อและกระดาษครบวงจรภายใต้ระบบบริหารคุณภาพมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และมาตรฐาน ISO 14001 ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ทำให้แบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศ และส่งออกไปกว่า 130 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ คณะผู้เยี่ยมชมยังได้เรียนรู้โมเดลการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในระบบหมุนเวียน (Circular Economy) และแนวทางการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environment, Social, Governance) ที่ดั๊บเบิ้ล เอ ยึดถือมาโดยตลอด เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมของชุมชน และธรรมาภิบาลที่โปร่งใส การเยี่ยมชมในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ดั๊บเบิ้ล เอ ได้แสดงถึงศักยภาพ ความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง และการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพให้กับผู้บริโภคและสังคม

ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งใจ ส่งความห่วงใย สนับสนุนหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ มอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ Double A Care เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขของหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์เครื่องเขียนดั๊บเบิ้ล เอ อาทิ สมุด ดินสอ ปากกา เป็นต้น ให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่ยังขาดแคลน โดยมี นางวาสนา เทียมสุวรรณ ที่ปรึกษาโครงการตามพระดำริและงานส่วนพระองค์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้เกียรติเป็นผู้แทนรับมอบ ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ เล็งเห็นความสำคัญด้านสุขภาพอนามัยของคนไทยและการศึกษาของเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ “Double A ส่งใจ มอบความห่วงใย ทั่วไทย” ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 โดยมอบหน้ากากอนามัยฯ Double A Care แก่บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย กลุ่มเปราะบาง และผู้ที่ขาดแคลน รวมถึงการมอบอุปกรณ์เครื่องเขียนเพื่อส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชน และในปี 2568 นี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังคงเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ในการส่งต่อความห่วงใยและพลังบวกสู่สังคมไทย ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน

ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมใจบริจาคโลหิต ครั้งที่ 113

    ดั๊บเบิ้ล เอ ร่วมกับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตครั้งที่ 113 ณ สำนักงานใหญ่ Double A จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ร่วมบริจาคโลหิตเป็นปริมาณรวมกว่า 52,000 ซีซี พร้อมยังมีผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา อวัยวะ และร่างกายเพื่อการกุศลอีกด้วย ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และนางสาวจุฑามาศ บัวเผื่อนนายอำเภอศรีมหาโพธิ ร่วมมอบของที่ระลึกและให้กำลังใจกับผู้บริจาคโลหิต นอกจากนี้ ในส่วนของสำนักงาน Double A สาขาฉะเชิงเทรา ยังได้ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตจากพนักงานและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งได้รับจำนวนโลหิตรวมกว่า 23,500 ซีซี     ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องทุก 3 เดือน โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 จนถึงปัจจุบัน มียอดรวมโลหิตแล้วทั้งสิ้น 159,000 ซีซี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย และเป็นการสำรองโลหิตให้กับสภากาชาดให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยในสถานพยาบาลต่างๆ นับเป็นส่วนหนึ่งของการทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน สร้างสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน